Homeบทความบทความ :: คุณพ่อเอนก นามวงษ์จากประตูแห่งความเชื่อ สู่ประตูศักดิ์สิทธิ์ (ตอนที่ 1)

จากประตูแห่งความเชื่อ สู่ประตูศักดิ์สิทธิ์ (ตอนที่ 1)

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

จากประตูแห่งความเชื่อ สู่ประตูศักดิ์สิทธิ์ (ตอนที่ 1)
PORTA FIDEI (The Door of Faith) to PORTA SANCTA (The Holy Door)

          พ่อได้รับเชิญให้อบรมเด็กนักเรียนระดับมัธยมต้นแห่งหนึ่ง พ่อสังเกตเห็นรอบ ๆ ในห้องนั้นนักเรียนมีโปสเตอร์ติดอยู่รอบห้อง และมีข้อความที่เด็กนักเรียนเขียนบนโปสเตอร์ เช่น

          “ครอบครัวเป็นบ่อเกิดแห่งความเชื่อ”

          “ความเชื่อมีจุดเริ่มต้นที่ครอบครัว”

          “พ่อแม่เป็นผู้สอนความเชื่อ”

          “ครูคำสอนสอนความเชื่อ”

          พ่อตั้งคำถาม ถามเด็กนักเรียนว่า ที่เขียนกันทั้งหมดนี้ บ่อเกิด, จุดเริ่มต้น, สอนความเชื่อคาทอลิกเราเชื่ออะไร?

          เงียบ.................ไม่มีใครตอบได้ บางตอบถูก ไม่ก็ไม่มั่นใจเท่าใดนัก

          ถ้าหากเราบอกว่า เราเชื่อ แต่เราบอกไม่ได้ว่า เราเชื่ออะไร เราเชื่อจริงหรือ?

          ถ้าหากเราบอกว่า เราเชื่อว่า พระคัมภีร์คือพระวาจาพระเจ้า แต่ เราไม่อ่าน ไม่ฟัง ไม่เรียนรู้พระวาจา ไม่ปฏิบัติตามพระวาจา เราเชื่อตามที่บอกจริง ๆ หรือ?

          ถ้าหากเราบอกว่า เราเชื่อว่า พระเป็นเจ้า ทรงสรรพานุภาพ สร้างฟ้าดิน มีเมตตาและรักเรามาก แต่ เราไม่ไปวัดสรรเสริญพระองค์ ไม่ไปแก้บาป เมื่อตกอยู่ในบาป ไม่สวดสม่ำเสมอ ไม่รับศีลศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ถ้าเป็นเช่นนี้ เราเชื่อตามที่บอกจริง ๆ หรือ?

          ถ้าหากเราบอกว่า เราเชื่อว่า คริสตชนเป็นวิหารของพระจิตเจ้า (ตามคำสอนของนักบุญเปาโล) พระเยซูเจ้าประทับอยู่กับเราผ่านทางศีลมหาสนิท แต่ เรายังนินทา ทำร้าย เอาเปรียบพี่น้องรอบข้างเท่ากับว่า เราทำร้ายที่ประทับของพระเยซูเจ้าด้วย ถ้าเป็นเช่นนี้เราเชื่อตามที่บอกจริง ๆ หรือ?

          ถ้าหากเราบอกว่า เราเชื่อว่าเราทุกคนเป็นพี่น้องกันในพระคริสตเจ้า แต่ เราปฏิเสธที่จะแบ่งปันเวลา ความสามารถ อาหาร ทรพย์สมบัติ เพื่อช่วยพี่น้องในพระคริสตเจ้าถ้าเป็นเช่นนี้ เราเชื่อตามที่บอกจริง ๆ หรือ?

          หากคริสตชนเป็นแบบนี้ “จะมีประโยชน์ใดหากผู้หนึ่งอ้างว่ามีความเชื่อแต่ไม่มีการกระทำ ความเชื่อเช่นนี้จะช่วยให้เขารอดพ้นได้หรือ” (ยากอบ 2:14)

          ในโอกาสเดือนตุลาคม 2012 เป็นเดือนที่ครบรอบ 50 ปีแห่งการสังคายนาวาติกัน ที่ 2 ซึ่งเริ่มขึ้น ในวันที่ 11 ตุลาคม 1962 และครบ 20 ปี การพิมพ์หนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC) เพื่อรำลึกถึงโอกาสสำคัญนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 จึงทรงประกาศ “ปีแห่งความเชื่อ” ให้พี่น้องคาทอลิกได้ทำการเฉลิมฉลอง ระหว่างเดือนตุลาคม 2012 ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2013 เพื่อเป็นการค้นพบและรื้อฟื้นความเชื่อคริสตชนอีกครั้งหนึ่ง

          พระสันตะปาปาทรงตรัสว่า “ปีแห่งความเชื่อ” นี้เป็นการเรียกร้องบรรดาสัตบุรุษให้กลับใจใหม่ เข้าหาพระเยซูคริสตเจ้า ผู้ทรงเป็นพระผู้ไถ่แต่พระองค์เดียวของโลก

          พระองค์ทรงให้เหตุผล “ถึงความจำเป็นที่เราต้องหันกลับมาค้นพบหนทางสู่ความเชื่อ กระตือรือร้นที่จะมีประสบการณ์พบปะกับพระคริสตเจ้า สาเหตุเพราะปัจจุบันคริสตชนมากมายได้รับผลกระทบจากวิกฤติลึกของความเชื่อ” (ประตูแห่งความเชื่อ: หน้า 10)

          พระองค์ทรงลิขิตว่า “ในอดีตนั้นเป็นไปได้ที่เรามีวัฒนธรรมที่เป็นหนึ่งเดียว  กลมเกลียวกัน เนื้อหาและคุณค่าแห่งความเชื่อเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป แต่สำหรับ ทุกวันนี้มันไม่เป็นเช่นนั้นอีกแล้วในสังคมส่วนใหญ่ เพราะวิกฤติของการขาดความเชื่อ ซึ่งมีผลต่อผู้คนเป็นจำนวนมาก

          พระสันตะปาปาทรงตั้งพระทัยแน่วแน่ที่จะต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงทาง วัฒนธรรมนี้ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนทั้งในระดับปัญญาและระดับชีวิตจิตอันเป็นตัวบ่งชี้ ความเข้าใจในชีวิตของเรา

เรารับไม่ได้ที่เกลือจะกลับกลายไร้รสชาติและแสงสว่างจะถูกเก็บซ่อนไว้” (เทียบมธ 5:13-16)

          พระสันตะปาปาทรงประกาศ “มนุษย์ทุกวันนี้ยังสามารถที่จะมีประสบการณ์ถึงความจำเป็นที่จะต้องไปยัง บ่อน้ำ เฉกเช่นหญิงชาวสะมาเรีย เพื่อที่จะสดับฟังพระเยซู ผู้ทรงเชื้อเชิญเราให้มีความ เชื่อในพระองค์และให้ได้รับต้นตอแห่งน้ำทรงชีวิตที่ท่วมท้นขึ้นภายในพระองค์” (เทียบ ยน 4:14) “

          เราต้องค้นให้พบรสชาติใหม่สำหรับการหล่อเลี้ยงตัวเราเองในพระวาจาของ พระเจ้า ซึ่งพระศาสนจักรมอบต่อมายังเราอย่างสัตย์ซื่อ และในปังแห่งพลังชีวิตที่ถูก มอบให้เป็นยาบำรุงกำลังให้กับบรรดาศิษย์ของพระองค์” (เทียบ ยน 6:51)

          พระสันตะปาปากำลังกล่าวอะไรกับเรา? พระองค์กำลังกล่าวจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ ในการดำเนินชีวิตตามวัฒนธรรมแห่งศาสนาเพื่อรื้อฟื้นความเชื่อ เพื่อเข้าใจความเชื่อ ให้ลึกซึ้ง และเพื่อแบ่งปันความเชื่อดังกล่าวให้กับผู้อื่น ไม่ใช่ด้วยการสอนเท่านั้น แต่ด้วยการกระทำที่เป็นแบบฉบับแห่งความรักของคริสตชนด้วย (ประตูแห่งความเชื่อ: หน้า 32-35)

          หากคริสตชนมีความเชื่อที่แท้จริง เขาต้องเป็นคริสตชนที่นักบุญโทมัส อากวีนัส ได้เขียนใน Summa Theologica ว่า

           “เมื่อใครคนหนึ่งมีจิตใจพร้อมที่จะเชื่อ
          เขาจะรักความจริงที่เขาเชื่อ
          เขาจะอยู่กับความเชื่อนี้
          ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ที่เขาแสวงหาได้
          เพื่อยืนยันถึงความเชื่อนี้”1

          ไม่ใช่บอกว่า ฉันเชื่อ ฉันเชื่อ ฉันเชื่อ แต่การดำเนินชีวิตคริสตชนไม่บ่งบอกเลย ฉันเชื่อ



1 ความรักล้นหลาม 2013 โดยราฟาแอล หน้า 31

 

(ติดตามตอนต่อไป)

จากประตูแห่งความเชื่อ สู่ประตูศักดิ์สิทธิ์ (ตอนที่ 2)

สถิติการเยี่ยมชม

9679925
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
1281
4078
5359
9631860
166292
260177
9679925
Your IP: 3.145.178.106
Server Time: 2024-04-29 13:18:23

แบบฟอร์ม

instagram

พระศาสนจักร


สื่อ YOUTUBE


Laudato si’

บทเรียนคำสอน





บทภาวนา

พิธีกรรมต่างๆ

เอกสารพระศาสนจักร

บทความคำสอน



KAMSONCHAN

 

   องค์กรคาทอลิก              คณะนักบวช  
 

สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม
แผนกคริสตศาสนธรรม
อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
ศูนย์คริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
สังฆมณฑลจันทบุรี
คณะรักกางเขนแห่งจันทบุรี
มูลนิธิสงเคราะห์เด็ก พัทยา
คามิลเลียนโซเชียลเซนเตอร์ ระยอง

  สังฆมณฑลนครราชสีมา                       
ศูนย์คริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลนครราชสีมา
สังฆมณฑลอุบลราชธานี
ศูนย์คริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลอุบลราชธานี   
สังฆมณฑลราชบุรี
ศูนย์คริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลราชบุรี
ศูนย์คริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลราชบุรี
สังฆมณฑลนครสวรรค์
สังฆมณฑลเชียงใหม่
  สังฆมณฑลสุราษฎ์ธานี
สังฆมณฑลอุดรธานี
ศูนย์คริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลอุดรธานี

สภาการศึกษาคาทอลิกประเทศไทย
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อความยุติธรรมและสันติ (ยส.)
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อสุขภาพอนามัย
สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย
สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย (อุดมสาร)
  ชมรมอธิการิณีเจ้าคณะนักบวชแห่งประเทศไทย
คณะภคินีเซนต์ปอลเดอร์ชาร์ต
คณะภคินีศรีชุมพาบาล       
คณะพระมหาไถ่แห่งประเทศไทย
คณะเซนต์คาเบรียล
คณะซาเลเซียน
คณะซาเลเซียน (ซิสเตอร์)
กางเขนแดงสาร

 



JSN Megazine template designed by JoomlaShine.com