ความเป็นหนึ่งเดียวกันเท่านั้นที่จะสามารถรักษาความมืดบอดได้

พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงถวายมหาบูชามิสซา ณ สนามกีฬา GSP (Gymnastic Club The Pancyprians Stadium) สาธารณรัฐไซปรัส ทรงนำพระวรสารของนักบุญมาระโกเรื่องชายตาบอด 2 คน มาเทศน์สอนถึง 3 ชั้นตอน เพื่อที่จะได้รับรักษาให้หายจากความมืดบอดในชีวิต

ขั้นตอนที่ 1 กลับไปหาพระเยซูคริสตเจ้า (going to Jesus)

เช่นเดียวกับคนตาบอดทั้ง 2 คน แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเห็นพระเยซูคริสตเจ้าด้วยดวงตาตามธรรมชาติของพวกเขา แต่พวกเขาได้ยินเสียงของพระองค์และติดตามพระองค์ไปด้วยความเชื่อ เพื่อที่จะเสาะแสวงหาความสว่างสำหรับดวงตาของพวกเขา

ท่ามกลางความมืดมิดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ พระเยซูคริสตเจ้าทรงเป็นแสงสว่างที่ส่องแสงยามค่ำคืนมายังหัวใจและในโลกของเรา เราด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อเรามีความมืดมิดในจิตใจ ความโดดเดี่ยว ความเสียใจ ให้เราเข้าไปหาองค์พระเยซูคริสตเจ้า เพื่อให้พระองค์รักษาจิตใจของเรา

ขั้นตอนที่ 2 แบ่งปันความเจ็บปวดให้แก่กันและกัน (sharing their pain)

บรรดาคนตาบอดทั้งสอง พวกเขาร้องขอความช่วยเหลือจากองค์พระเยซูคริสตเจ้า ดังเช่นชีวิตของคริสตชนและจิตวิญญาณของพระศาสนจักร ที่จะคิด พูด และทำ ด้วยการเลิกคิดถึงแต่ตนเอง (ความเห็นแก่ตัว) และความรู้สึกของความพอใจในระดับส่วนตัวเท่านั้น

คนตาบอดสองคนนี้ได้สอนเรา ว่าเราแต่ละคนต่างก็มีความมืดบอดอันเป็นผลมาจากบาป ความมืดมิดนี้เองที่ปิดกั้นเราไม่ให้มองเห็นพระเจ้า ผู้ทรงเป็นพระบิดาของพวกเราทุกคน และทำให้เราเป็นพี่น้องกัน บาปนี้ได้บิดเบือนความเป็นจริง แต่ถ้าเราแบกรับความมืดบอดของเราตามลำพัง มันอาจทำให้เราจมดิ่งลง เราต้องยืนเคียงข้างกันและกัน เพื่อแบ่งปันความเจ็บปวด และมองไปยังถนนที่เราจะก้าวเดินไปข้างหน้า

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เรียกร้องเราให้ฟื้นฟูความรู้สึกแห่งการเป็นพี่น้องกัน (sense of fraternity) เพื่อที่จะได้รับการรักษาให้หายจากความมืดบอด การรักษาจะเกิดขึ้นหากเราแบกความเจ็บปวดหรือรอยแผลด้วยกัน เมื่อเราเผชิญหน้ากับปัญหาด้วยกัน หรือเมื่อเราได้ฟัง หรือพูดให้แก่กันและกัน

ขั้นตอนที่ 3 ข่าวดี (the Good News)

หลังจากที่พระเยซูคริสตเจ้าได้รักษาชายตาบอดทั้งสองคนแล้ว พวกเขาได้ประกาศข่าวดีที่ได้รับอย่างชื่นชมยินดีไปทั่วทั้งเมือง แม้ว่าพระเยซูคริสตเจ้าเองได้ทรงกำชับพวกเขาแล้วว่า “อย่าไปบอกเรื่องนี้ให้กับใครได้รับรู้” แต่พวกเขาได้ทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามอย่างแท้จริง ซึ่งไม่ได้ตั้งใจที่จะขัดต่อความเชื่อฟังพระองค์ เพราะพวกเขาไม่สามารถที่จะเก็บเรื่องราวเหล่านี้ไว้ในใจได้อย่างแท้จริง พวกเขาตื่นเต้นที่ได้รับการรักษา และชื่นชมยินดีที่ได้พบกับพระเยซูคริสตเจ้า เช่นเดียวกับสัญชาตญาณของเราที่เป็นคริสตชน

พระสันตะปาปาจบบทเทศน์ของพระองค์ด้วยการเชื้อเชิญทุกคนที่อยู่ในสนามกีฬา GSP ให้ดำเนินชีวิตด้วยความชื่นชมยินดี ให้กำลังใจพวกเขาสำหรับการก้าวเดินต่อไปเช่นเดียวกับชายคนตาบอดทั้งสองคน ด้วยการเข้ามาหาพระเยซูเจ้า ผู้ทรงเป็นองค์ความสว่างแท้จริง และดำเนินชีวิตด้วยการเป็นประจักษ์พยานถึงพระองค์อย่างไม่มีความหวาดกลัว ต่อหน้าบุคคลทั้งหลายที่เราได้พบ