รำพึงพระวาจาประจำวัน วันที่ 17 ตุลาคม 2561 วันพุธสัปดาห์ที่ 28 เทศกาลธรรมดา [กท.5:18-25; สร้อยสดุดี 1:1-4, 6; ลก.11:42-46] บรรดาชาวฟาริสีท่านถวายหนึ่งในสิบของสะระแหน่สมุนไพรและผักทุกชนิดแต่ละเลยความยุติธรรมและความรักต่อพระเจ้า (ลก.11:42)
ชาวอิลราเอลที่เลี้ยงชีพตนเองด้วยการทำไร่ ทำนา มีบทบัญญัติไว้ว่า<ทุกๆ ปี ท่านจะต้องกันหนึ่งในสิบจากผลิตผลของไร่นาที่ท่านเพาะปลูก>(ฉธบ.14:22; ลวต.27:30)ดังนั้นเพื่อถือตามบทบัญญัติ พวกเขาจึงถวายหนึ่งในสิบในผลผลิตของตน ฟาริสีไม่ได้เลี้ยงชีพด้วยการทำไร่ ทำนา พวกเขาได้ “สร้างสวน” ของตนเองขึ้นมา ส่วนใหญ่จะปลูกฝักสวนครัว บางก็เป็นกระถางเล็ก ๆ แล้วพวกเขาก็ถวายหนึ่งในสิบของผักสวนครัวที่ตนเองสร้างขึ้นมา การกระทำเช่นนี้ของฟาริสีก็แค่ทำตามบทบัญญัติที่ได้เขียนได้เท่านั้น เพื่อให้ได้ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติบทบัญญัติอย่างเคร่งครัด ไม่ได้ออกแรงอะไร ซึ่งต่างกับชาวนา ชาวไร่ ที่ต้องออกแรง ออกเหงื่อ เพื่อทำงานในที่นาของตน ด้วยเหตุนี้ พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับพวกเขาว่า <ท่านถวายหนึ่งในสิบของสะระแหน่สมุนไพรและผักทุกชนิด>(ลก.11:42)เหมือนเป็นผู้เคร่งครัดในบทบัญญัติ เหมือนเป็นผู้ศรัทธาต่อพระเจ้า แต่บทบัญญัติที่สำคัญที่สุดที่ฟาริสีไม่ได้ปฏิบัติคือ<ละเลยความยุติธรรมและความรักต่อพระเจ้า>(ลก.11:42) หากคริสตชนอ่านพระวาจาทุกวัน ไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณทุกสัปดาห์ สวดสายประคำทุกวัน <แต่ละเลยความยุติธรรมและความรักต่อพระเจ้า>(ลก.11:42)ก็ไม่ต่างอะไรกับฟาริสี นั่นเอง ดังนั้น คริสตชนที่ศรัทธาต่อพระเจ้า ต้องแสดงออกด้วยการรักเพื่อนพี่น้อง<ถ้าเรามีชีวิตเดชะพระจิตเจ้าแล้วเราจงดำเนินชีวิตตามพระจิตเจ้าด้วย>(กท.5:25)<ส่วนผลของพระจิตเจ้าก็คือความรัก ความชื่นชม ความสงบ ความอดทน ความเมตตา ความใจดี ความซื่อสัตย์ ความอ่อนโยน และการรู้จักควบคุมตนเอง>(กท.5:25)
>>ผู้ใดเดินตามเราจะไม่เดินในที่มืด แต่จะมีแสงสว่างนำชีวิต<< คุณพ่อเอนก นามวงษ์ รำพึงพระวาจาประจำวันได้ที่ www.kamsonchan.com
|