รำพึงพระวาจาประจำวัน วันที่ 27 กรกฎาคม 2561 วันศุกร์สัปดาห์ที่ 16 เทศกาลธรรมดา [ยรม.3:14-17; บทสร้อยสดุดี ยรม.31:10-13; มธ. 13:18-23] เพราะฉะนั้น จงฟังความหมายของอุปมาเรื่องผู้หว่านเถิด (มธ.13:18)
พระวาจาของพระเจ้ามีพลัง,ทำให้เกิดการกลับใจ, บังเกิดผลและเป็นดาบสองคม ดังนั้น สามารถป้องกันอันตรายจากมารร้ายที่จะโจมตีชีวิตคริสตชนได้ มารร้ายหรือศัตรูตัวที่ 1 ของพระวาจาของพระเจ้าคือ “เมื่อคนหนึ่งฟังพระวาจาเรื่องพระอาณาจักรและไม่เข้าใจ มารร้ายก็มาและถอนสิ่งที่หว่าน ลงในใจของเขาไปเสีย นั่นได้แก่ เมล็ดที่ตกริมทาง” (มธ.13:19) มารร้ายหรือศัตรูตัวที่ 2 ของพระวาจาของพระเจ้าคือ “เขาไม่มีรากในตัว จึงไม่มั่นคง เมื่อเผชิญความยากลำบากหรือถูกเบียดเบียนเพราะพระวาจานั้น เขาก็ยอมแพ้ทันที (มธ.13:21) มารร้ายหรือศัตรูตัวที่ 3 ของพระวาจาของพระเจ้าคือ “บุคคลที่ฟังพระวาจา แต่ความวุ่นวายในทางโลก ความลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติ เข้ามาบดบังพระวาจาไว้ จึงไม่เกิดผล” (มธ.13:22) การกังวลเรื่อง ‘เราจะกินอะไร หรือจะดื่มอะไร หรือเราจะนุ่งห่มอะไร’ (มธ.6:31) มารร้ายหรือศัตรูตัวที่ 4 ของพระวาจาของพระเจ้าคือ “ความลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติ” (มธ.13:22) “ความรักเงินตราเป็นรากเหง้าของความชั่วร้ายทุกประการ” (1ทธ.6:10) หากคริสตชนรักโลกวัตถุ รักสิ่งที่เป็นของโลก ถ้าผู้ใดรักโลก ความรักของพระบิดาก็ไม่อยู่ในตัวเขา (1ยน.2:15) มารร้ายหรือศัตรูตัวที่ 5 ของพระวาจาของพระเจ้าคือ การเกรงกลัว เกรงใจผู้คนรอบข้าง แทนที่จะเกรงกลัวพระเจ้า กลับให้ฐานะพระเจ้าเป็นรองคนรอบข้าง เมื่อเกรงใจคนรอบข้าง ก็ไม่สามารถ “ดำเนินชีวิตในความจริงด้วยความรัก” (อฟ.4:15) ได้ หากคริสตชน เชื่อในพระเยซูเจ้า ฟังพระวาจาและปฏิบัติตามพระวาจาของพระเจ้า จะสามารถเอาชนมารร้ายของพระวาจาได้
>>ผู้ที่เก็บรักษาพระวาจาของพระเจ้าไว้ในดวงใจอันล้ำเลิศ และทำให้บังเกิดผลเพราะความพากเพียรย่อมเป็นสุข<<
คุณพ่อเอนก นามวงษ์ รำพึงพระวาจาประจำวันได้ที่ www.kamsonchan.com
|