รำพึงพระวาจาประจำวัน วันที่ 26 กรกฎาคม 2561 วันพฤหัส นักบุญโยอากิม และอันนา บิดามารดาของพระนางมารีย์พรหมจารี [ยรม.2:1-3, 7-8, 12-13; สดด.36:6-11; มธ.13:10-17] สำหรับคนเหล่านี้คำทำนายของประกาศกอิสยาห์ก็เป็นความจริงที่ว่าท่านทั้งหลายจะฟังแล้วฟังเล่าแต่จะไม่เข้าใจ จะมองแล้วมองเล่าแต่จะไม่เห็นเพราะจิตใจของประชาชนนี้แข็งกระด้าง เขาทำหูทวนลมและปิดตาเสีย เพื่อไม่ต้องมองด้วยตาไม่ต้องฟังด้วยหู จะได้ไม่เข้าใจ จะได้ไม่ต้องกลับใจเราจะได้ไม่ต้องรักษาเขา (มธ.13:14-15)
ข้อความพระวาจาข้างบนมาจากประกาศกอิสยาห์บทที่ 6 ข้อที่ 9-10 ประกาศอิสยาห์ยอมรับการเรียกของพระเจ้า เป็นกระบอกเสียงของพระเจ้า(อสย.6:1-8)และพระเจ้าตรัสกับประกาศอิสยาห์ด้วยพระวาจาข้างบน และข้อความ พระวาจา นี้ ได้ถูกอ้างอิงในพระธรรมใหม่ 5 ครั้ง (มธ.13:14-15; มก.4:12; ลก.8:10; ยน.12:40; กจ.28:26-27) เหตุที่พระเยซูเจ้าตรัสเตือนเราด้วยประโยคจาก พระวาจาในพระธรรมเดิม เพราะว่า คริสตชนได้รับการเรียกให้เป็นประกาศกของพระเจ้า เป็นกระบอกเสียงของพระเจ้า ทำหน้าที่ผู้ประกาศข่าวดี ไม่ว่าประชาชนจะยอมรับหรือไม่ จะฟังหรือไม่ฟังก็ตามที“ขณะที่เขากำลังหว่านอยู่นั้นบางเมล็ดตกอยู่ริมทางเดินนกก็จิกกินจนหมด” (มธ.13:4) ถึงแม้คนไม่ฟัง พระเยซูเจ้าตรัสว่า จงหาหนทางในการประกาศข่าวดี “ทำไมพระองค์ตรัสแก่พวกเขาเป็นอุปมาเล่า”(มธ.13:10) “เพราะจิตใจของประชาชนนี้แข็งกระด้าง เขาทำหูทวนลมและปิดตาเสีย เพื่อไม่ต้องมองด้วยตาไม่ต้องฟังด้วยหู จะได้ไม่เข้าใจ จะได้ไม่ต้องกลับใจเราจะได้ไม่ต้องรักษาเขา”(มธ.13:15) ด้วยเหตุนี้คริสตชน จงมีความพยายามประกาศข่าวดีของพระคริสตเจ้า
>>เขารอคอยความรอดพ้นของอิสราเอล พระจิตเจ้าสถิตอยู่กับเขา<<
คุณพ่อเอนก นามวงษ์ รำพึงพระวาจาประจำวันได้ที่ www.kamsonchan.com
|