ในเวลาที่คริสตชนถูกเกลียด ถูกปฏิเสธ ได้รับการปฏิบัติอย่างเย็นชา ในฐานะที่เป็นคริสตชน จะเผชิญหน้าสถานการณ์แบบนี้อย่างไร?

          พระเยซูเจ้าตระหนักถึงการฟาริสีจะกำจัดพระองค์ “พระองค์พระ​องค์​ทรง​รักษา​ทุก​คน​ให้​หาย​จาก​โรค แต่​ทรง​กำชับ​เขา​มิ​ให้​แพร่งพราย​ให้​ผู้ใด​รู้”(มธ.12:16)

          ในขณะที่คริสตชนได้รับความเจ็บปวดจากสถานการณ์ถูกเกลียด ถูกปฏิเสธ ได้รับการปฏิบัติอย่างเย็นชา เราพยายามหาทางเยียวยารักษาตนเอง

          สำหรับพระเยซูเจ้าไม่ว่าจะเผชิญหน้ากับสถานการณ์อะไร พระองค์ยังคงรักษาคนเจ็บป่วย ประกาศข่าวดีต่อไป

          ในขณะที่พระเยซูถูกตรึงบนไม้กางเขน พระองค์ไม่ได้น้อยใจ สงสารตนเอง แต่กลับให้อภัยและภาวนาขอต่อพระบิดาว่า “โปรด​อภัย​ความ​ผิด​แก่​เขา​เถิดเพราะ​เขา​ไม่​รู้​ว่า​กำลัง​ทำ​อะไร”(ลก.23:34), และยังได้สัญญากับผู้ร้ายคนหนึ่งว่า “วันนี้ ท่าน​จะ​อยู่​กับ​เรา​ใน​สวรรค์” (ลก.23:43), ให้พระแม่มารีย์เป็นมารดาของอัครสาวกและเราทุกคน(ยน.19:26-27), และพระองค์ทรงถวายตนเองแด่พระบิดา‘พระ​บิดา​เจ้าข้าข้าพ​เจ้า​มอบ​จิต​ของ​ข้าพ​เจ้า​ไว้​ใน​พระ​หัตถ์​ของ​พระ​องค์’(ลก.23:46)​

          พระเยซูเจ้ามีน้ำพระทัยของพระบิดาเป็นจุดศูนย์กลางเสมอ,

          พระเยซูเจ้าให้ผู้อื่นเป็นจุดศูนย์กลางเสมอ,

          พระเยซูเจ้าให้คนบาปเป็นจุดศูนย์กลาง,

          แม้จะรับทรมาน สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระองค์ไม่เคยเอาพระองค์เป็นจุดศูนย์

          ด้วยเหตุนี้ คริสตชนไม่ว่าจะเผชิญหน้ากับปัญหาอะไร จงมองดูพระเยซูเจ้าเป็นตัวอย่าง ยังคงทำตามน้ำพระทัยของพระบิดาในทุกสถานการณ์ของชีวิตพระองค์

พระเจ้าทรงโปรดให้โลกคืนดีกับพระองค์ในองค์พระคริสตเจ้า

และทรงมอบให้เราประกาศสารแห่งการคืนดีนี้

คุณพ่อเอนก นามวงษ์

รำพึงพระวาจาประจำวันได้ที่ www.kamsonchan.com