รำพึงพระวาจาประจำวัน วันที่ 6 กรกฎาคม 2561 วันศุกร์ นักบุญมารีย์ กอเรตตี พรหมจารีและมรณสักขี [อมส.8:4-6, 9-12; สดด.119:2, 10, 20, 30, 40, 131; มธ.9:9-13] ดูซิวันเวลาจะมาถึง— พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส—เมื่อเราจะส่งทุพภิกขภัยมาในแผ่นดินไม่ใช่การหิวอาหารหรือการกระหายน้ำ {อมส.8:11}
มัทธิวเป็นคนเก็บภาษี คนเก็บภาษีในสมัยนั้นคือผู้ที่ประกาศกอามอสได้บรรยายไว้ในบทอ่านแรก “ผู้ที่เอาเปรียบและฉ้อโกง”(อมส.8:4-6) ธรรมชาติของคนเราก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่สมัยประกาศกอาโมส เพื่อจะได้เงินมากมาก ธรรมชาติมนุษย์บางคนมีแนวโน้มที่จะเอาเปรียบ,โกงคนรอบข้าง พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้ ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงดำเนินไปจากที่นั่นหลังจากนั้นพระองค์เสด็จออกไปทอดพระเนตรเห็นคนเก็บภาษีคนหนึ่งชื่อเลวีนั่งอยู่ที่ด่านภาษี”(ลก.5:27)มัทธิวหรือเลวี มีอาชีพเก็บภาษี คืออาชีพ“เอาเปรียบและฉ้อโกง”อมส.8:4-6) พระเยซูเจ้าสอนคริสตชนว่า“ไม่มีใครเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้เขาจะชังนายคนหนึ่งและจะรักนายอีกคนหนึ่ง”(มธ.6:24)“ความรักเงินตราเป็นรากเหง้าของความชั่วร้ายทุกประการ”(1ธส.6:10)การที่คนเราแสวงหาสมบัติในโลก ใจจดจ่ออยู่กับสมบัติโลก เขาเหล่านั้นจะไม่ได้ยินพระวาจาของพระเจ้า(อมส8:11) วันนี้พระเยซูเจ้าทรงเรียกมัทธิวผู้มีใจจดจ่ออยู่กับสมบัติทางโลก “จงตามเรามาเถิด”(มธ.9:9) พระเยซูเจ้าเรียกให้มัทธิวมาฟังพระวาจาของพระองค์ พระวาจาของพระเจ้าจะนำความรอดมาให้ไม่ใช่สมบัติภายนอก “ข้าพเจ้าเห็นว่าไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องละอายต่อข่าวดีเพราะนี่คืออานุภาพของพระเจ้าซึ่งนำความรอดพ้นให้แก่ทุกคนที่มีความเชื่อให้แก่ชาวยิวก่อนและให้แก่คนต่างชาติด้วยเช่นกัน” (รม.1:16)“พระวาจาของพระเจ้า เป็นพระวาจาที่มีชีวิตและบังเกิดผลคมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆแทงทะลุเข้าไปถึงจุดที่วิญญาณและจิตใจแยกจากกันถึงเส้นเอ็นและไขกระดูกวินิจฉัยความรู้สึกนึกคิดภายในใจได้ จึงไม่มีสรรพสิ่งใดๆซ่อนเร้นไว้เฉพาะพระพักตร์แต่ทุกสิ่งเปิดเผยอย่างชัดเจนต่อสายพระเนตรของพระผู้ซึ่งเราจะต้องทูลถวายรายงาน”(ฮบ.4:12-13) ดังนั้นคริสตชนทั้งหลาย จงติดตามพระเยซูเจ้เถิด พระวาจาของพระองค์นำมาซึ่งความรอด นำมาซึ่งชิวิตนิรันดร
มนุษย์ดำรงชีวิตอยู่มิใช่ด้วยอาหารแต่อย่างเดียว
คุณพ่อเอนก นามวงษ์ รำพึงพระวาจาประจำวันได้ที่ www.kamsonchan.com
|