พ่อเล่าเรื่อง 57 หน่วยตรวจความมั่นคงสาธารณะของนครวาติกัน

ช่วยให้ผู้แสวงบุญที่วาติกันได้พบพระเยซูเจ้า

(Your service helps pilgrims to Vatican welcome Jesus)

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 บรรดา หน่วยตรวจความมั่นคงสาธารณะของนครวาติกัน (the Inspectorate of Public Security) ผู้ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับบรรดาผู้แสวงบุญ ผู้มาเยือนนครรัฐวาติกัน และนักท่องเที่ยว ได้เข้าเฝ้าพระสันตะปาปาฟรังซิสประจำปี ค.ศ. 2022

การทำงานช่วงโรคระบาด (Service during the pandemic)

พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงกล่าวชื่นชมการทำงานของบรรดาตำรวจเหล่านี้ แม้ในช่วงระยะเวลาของโรคระบาดที่ผ่านมา แต่พวกเขาก็สามารถปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานได้อย่างดี โดยบูรณาการด้านสุขภาพ กฎระเบียบ และความต้องการของผู้แสวงบุญ อันอยู่บนพื้นฐานของ การดูแลประชาชน การปกป้องเกียรติ และความปลอดภัยของแต่ละคน จนทำให้นครรัฐวาติกันและบริเวณรอบ ๆ มีความสงบเรียบร้อยทั้งกลางวันและกลางคืน

อีกทั้งยังเอื้ออำนวยให้กับบุคคลต่าง ๆ ที่เข้ามาสวดภาวนาและร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณในพระมหาวิหารนักบุญเปโตร ทั้งที่เป็นการสวดภาวนาแบบส่วนตัว หมู่คณะ แม้กระทั่งพิธีกรรมที่เป็นทางการของนครรัฐวาติกัน และผู้ที่มาท่องเที่ยว ซึ่งเป็นงานที่สำคัญและละเอียดอ่อน ต้องดำเนินด้วยความพากเพียร มุ่งมั่นตั้งใจ แม้ในสถานการณ์ที่ซับซ้อนที่สุด แต่ก็ต้องอดทนและพร้อมที่จะให้บริการอยู่ตลอดเวลา

พระสันตะปาปาทรงขอบใจพวกเขาสำหรับการอารักษาพระองค์ในโอกาสเสด็จไปยังที่ต่าง ๆ ในกรุงโรมและประเทศอิตาลี โดยการทำงานร่วมกันกับทหารวาติกัน (Swiss Guard) อีกด้วย

ช่วยให้ผู้คนได้พบพระเจ้า (Helping people encounter the Lord)

พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเน้นย้ำว่า “คนคือหัวใจของการทำงานเสมอ” บางคนอาจมาขอความช่วยเหลืออะไรบางอย่าง มีปัญหา หรือมีความต้องการ ซึ่งบางครั้งอาจจะไม่ยุติธรรม ไม่เหมาะสม และดูเหมือนว่าจะทำเกินไป ต้องขอขอบคุณพวกคุณสำหรับความอดทนและปฏิบัติกับบุคคลเหล่านั้นอย่างที่พวกเขาเป็น เพราะนั่นคือวิธีการที่พระเจ้าได้ปฏิบัติต่อเรา เมื่อเราได้วิงวอนขอต่อพระองค์เช่นเดียวกัน

เช่นเดียวกับการฉลองแม่พระถวายพระกุมารในพระวิหารเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เป็นการฉลองของการพบพระเป็นเจ้าของผู้เฒ่าสิเมโอนและนางอันนาในพระวิหาร เมื่อพระนางมารีย์และนักบุญโยเซฟ คู่สมรสใหม่ได้กลายเป็นบิดามารดา พวกเขาทั้ง 4 คน แม้จะแตกต่างกันในเรื่องของวัย แต่พวกเขาก็ต่างมีพระเยซูคริสตเจ้าเป็นศูนย์กลางอยู่ท่ามกลางพวกเขา เช่นเดียวกับการทำงานหน้าที่รักษาความปลอดภัย ต้องอำนวยความสะดวกเพื่อที่จะทำให้ทุกคนได้เข้ามาพบพระเป็นเจ้า ณ สถานที่แห่งนี้ เพราะพระองค์ประทับอยู่ที่นี่

77ปีแห่งการให้บริการและรับใช้ (Nearly 77 years of service)

หน่วยตรวจความมั่นคงสาธารณะของนครวาติกันได้เริ่มเข้ามาทำงานในนครรัฐวาติกันตั้งแต่ปี ค.ศ. 1929 ตามข้อตกลงลาเตรัน (Lateran Pacts) ระหว่างนครรัฐวาติกันกับรัฐบาลอิตาลี เพื่อแสดงความเป็นอิสระของนครรัฐวาติกันในการมีอำนาจปกครองตนเอง

หน่วยตรวจความมั่นคงสาธารณะของนครรัฐวาติกันถือกำเนิดเมื่อปี ค.ศ. 1945 ภายใต้สถานีตำรวจพิเศษประจำนครรัฐวาติกัน ในเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 1954 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นหน่วยตรวจทั่วไปของสถานีตำรวจในนครรัฐวาติกัน และตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ. 2001 ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็นหน่วยตรวจความมั่นคงสาธารณะของนครรัฐวาติกัน

เนื่องจากนครรัฐวาติกันถูกล้อมรอบด้วยอาณาเขตของประเทศอิตาลี ข้อตกลงลาเตรันจึงมอบความไว้วางใจให้ตำรวจอิตาลีทำการรักษาความปลอดภัยให้กับพระสันตะปาปาเมื่อเสด็จออกจากนครรัฐวาติกัน ตำรวจอิตาลีอารักขาและประสานงานการคุ้มกันติดอาวุธทั้งหมดสำหรับพระสันตะปาปา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของนครรัฐวาติกัน และประมุขแห่งรัฐที่สำคัญทุกครั้งที่พวกเขาต้องเข้าและออกนครรัฐวาติกัน

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1992 ตำรวจเหล่านี้ยังมีหน้าที่ออกใบอนุญาตพำนัก ศึกษา และทำงานอยู่ในประเทศอิตาลี (Permesso di Soggiorno) ของบรรดานักบวช บาทหลวง และฆราวาสต่างชาติทั่วไปที่อาศัยอยู่ในกรุงโรมด้วย โดยทำงานร่วมกันกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของอิตาลีในกรุงโรม

นอกจากหน่วยตรวจความมั่นคงสาธารณะของนครรัฐวาติกันแล้ว ยังมีทหารองครักษ์สวิสและกรมทหารวาติกัน ที่เป็นกองกำลังตำรวจของนครรัฐวาติกันเอง ที่คอยรักษาความปลอดภัยให้กับพระสันตะปาปาและนครรัฐวาติกันอีกด้วย