ก้าวไปกับโป๊ป #368 : นักบุญชาร์ลสเดอฟูโกลด์ปล่อยให้พระเยซูเจ้าทรงกระทำอย่างเงียบๆ (St. Charles de Foucauld ‘let Jesus act silently’)



ในการพบปะกับประชาชนทั่วไปในวันพุธที่ 18 ตุลาคม 2023 พระสันตะปาปาฟรังซิสยังคงสอนคำสอนเกี่ยวกับความกระตือรือร้นในการเผยแพร่ศาสนา และไตร่ตรองถึงการเป็นพยานอันน่าชื่นชมยินดีที่เกิดขึ้นในทะเลทรายซาฮาราโดยนักบุญชาร์ลส์ เดอ ฟูเคาลด์

นักบุญชาร์ลส์เกิดที่เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) ในปี 1858 ดำรงตำแหน่งทหารในกองทัพฝรั่งเศส ก่อนที่จะมาเป็นฤาษี และบาทหลวงคาทอลิกในหมู่ชาวทูอาเร็กในแอลจีเรีย (the Tuareg people in Algeria) ซึ่งท่านถูกลอบสังหารในปี 1916 นักบุญองค์นี้ทำให้พระเยซูเจ้าและพี่น้องที่ยากจนที่สุดของท่านเป็น “ความหลงใหลในชีวิตของท่าน”

หลังจากการกลับใจ นักบุญชาร์ลส์เขียนจดหมายถึงเพื่อนที่ไม่เชื่อว่าเขา “เสียหัวใจให้กับพระเยซูชาวนาซาเร็ธ” คำพูดของท่านแสดงให้เห็นว่า ขั้นตอนแรกในการประกาศข่าวดีคือ “ให้พระเยซูเจ้าเป็นศูนย์กลางของหัวใจ”
“หากสิ่งนี้ไม่เกิดขึ้น เราก็แทบจะแสดงมันออกมาไม่ได้ด้วยชีวิตของเรา แต่เราเสี่ยงที่จะพูดถึงตัวเราเอง กลุ่มของเรา ศีลธรรม หรือที่แย่กว่านั้นคือกฎเกณฑ์ต่าง ๆ แต่ไม่ใช่เกี่ยวกับพระเยซู เจ้า ความรักของพระองค์ และความเมตตาของพระองค์”

นักบุญชาลส์ เดอ ฟูโกลด์เปลี่ยนจาก “การดึงดูดพระเยซูเจ้ามาเป็นการเลียนแบบพระองค์ และยังรู้สึกเหมือนเป็นน้องชายขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยซ้ำ ท่านเดินทางไปไกลถึงสถานที่ที่ห่างไกลที่สุด นั่นก็คือ ทะเลทรายซาฮารา เพื่ออยู่ท่ามกลางชาวเทาเร็ก เพื่อ “ร้องประกาศพระวรสารอย่างเงียบ ๆ”

“ชาร์ลส์ปล่อยให้พระเยซูเจ้าทรงกระทำอย่างเงียบ ๆ โดยเชื่อว่า 'ชีวิตศีลมหาสนิท' ได้รับการประกาศพระวรสาร แท้จริงแล้ว ท่านเชื่อว่าพระเยซูเจ้าเป็นผู้ประกาศพระวรสารเป็นคนแรก”

ท่านนักบุญใช้เวลาถึง 12 ชั่วโมงต่อวันในการอธิษฐานภาวนาต่อหน้าศีลมหาสนิท โดยวางใจให้พระเยซูเจ้าทรงดำเนินงานการประกาศพระวรสาร

นักบุญชาร์ลส์เป็นภาพเล็งเห็นถึงสภาวาติกันครั้งที่สอง โดยเน้นย้ำถึงภารกิจการประกาศพระวรสารของคริสตชนฆราวาส ที่ว่า “คริสตชนทุกคนเป็นอัครอัครสาวก” และพระสงฆ์จำเป็นต้องมีคนใกล้ชิดที่สามารถ “ประกาศพระวรสารด้วยความใกล้ชิดแห่งความรัก” คริสตชนทุกคนได้รับการทรงเรียกในการประกาศพระวรสาร “โดยการคุกเข่าและต้อนรับการกระทำของพระจิตเจ้า”

นักบุญชาร์ลส์ได้สื่อสารถึงความงดงามของพระวรสารผ่านทาง “งานอภิบาลแห่งความสุภาพอ่อนโยน” และด้วยความปรารถนาที่จะเป็น “พี่น้องสากล” กับทุกคน “สายสัมพันธ์เหล่านี้ค่อย ๆ ก่อให้เกิดภราดรภาพ การไม่แบ่งแยก และความซาบซึ้งในวัฒนธรรมของอีกฝ่าย ความดีนั้นเรียบง่าย และขอให้เราเป็นคนเรียบง่ายที่ไม่กลัวที่จะยิ้ม”

ให้ทุกคนอยู่ด้วย "ด้วยความยินดีของคริสตชน ความสุภาพของคริสตชน ความอ่อนโยนของชาวคริสตชน ความเมตตาของคริสตชน และความใกล้ชิดของคริสตชน ด้วยรอยยิ้ม ด้วยความเรียบง่าย ดังเช่นชีวิตของนักบุญชาร์ลส์ที่เป็นพยานถึงพระวรสาร แม้ว่าท่านไม่เคยชักชวนใครให้เปลี่ยนศาสนา แต่ด้วยการเป็นประจักษ์พยานและแรงดึงดูดใจ