ก้าวไปกับโป๊ป #157 : โป๊ปจะเสด็จเยือนบาห์เรนนับเป็นก้าวสำคัญบนหนทางแห่งความเป็นพี่น้อง

เยาวชนควรเป็นเชื้อแป้งของสังคม (youth to become "leaven" in society)

ผู้นำเยาวชนขององค์กรคาทอลิกอิตาลี (young leaders of the Italian Catholic Action) ได้เข้าเฝ้าพระส้นตะปาปาฟรังซิสเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2022 ณ หอประชุมเปาโลที่ 6 นครรัฐวาติกัน พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเทศน์สอนพวกเขาให้ช่วยกันทำงานในวัดและเสริมสร้างความเป็นพี่น้องกันให้เกิดขึ้น

บรรดาเยาวชนเป็นตัวเชื่อมระหว่างผู้คนช่วงวัย (Generation) ต่าง ๆ เพื่อช่วยบรรดาคุณพ่อเจ้าอาวาสและผู้ช่วยเจ้าอาวาสทำงานอภิบาลในวันอาทิตย์ การสอนคำสอน และการให้บริการศีลศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ

ปัจจุบันความเป็นจริงทางด้านวัฒนธรรมสังคมเปลี่ยนแปลงไปมากทั่วโลก ทำให้พันธกิจของพระศาสนจักรและวัดต่าง ๆ ต้องคิดทบทวนอีกครั้ง แต่สิ่งที่สำคัญที่จะคงอยู่ต่อไปก็คือ “การเดินทางของความเชื่อและการเติบโต” ซึ่งวัดมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างเรื่องเหล่านี้

วัดเป็นสถานที่เราเรียนและได้ฟังพระวรสาร ได้รู้จักพระเยซูเจ้า ได้รับใช้ด้วยความกตัญญู ได้สวดภาวนาร่วมกัน ได้แบ่งปันการทำงานและการสร้างสรรค์ต่าง ๆ ทำให้เราได้รู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของประชากรศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า

องค์กรคาทอลิกและชุมชนวัด (Catholic Action and the parish community)

อาศัยศีลล้างบาปทำให้เราแต่ละคนเป็นพี่น้องกัน เราเป็นบุคคลสำคัญและมีความรับผิดชอบ โดยการใช้พระพรที่เราได้รับมาจากพระเจ้าเพื่อความดีส่วนร่วมของหมู่คณะ ตลอดจนกระแสเรียกต่าง ๆ ที่เราแต่ละคนได้รับในการติดตามพระเยซูเจ้า ความเชื่อเป็นของประทานที่เราได้รับมาจากพระองค์ เราต้องเป็นประจักษ์พยานในเรื่องนี้

บรรดาคริสตชนจะต้องสนใจต่อความเป็นไปทางด้านสังคม ช่วยเหลือและแบ่งปัน ใส่ใจกันและกัน โดยเฉพาะผู้ที่มีความทุกข์ยากอันเกิดมาจากความยุติธรรมและถูกขับไล่ออกไป เราสามารถสังเกตเห็นสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ได้ในชุมชนวัดของเรา

เยาวชนที่รักทั้งหลาย เรามาจากวัย (generation) ที่แตกต่างกัน แต่เราต่างก็มีความรักในพระศาสนจักร รักในชุมชนวัดของเรา ซึ่งเป็นเสมือนบ้านของเรา ท่ามกลางครอบครัวและผู้คนทั้งหลาย

มีส่วนสนับสนุนการเติบโตของพระศาสนจักรในความเป็นพีน้องสากล (Contributing to the growth of the Church in fraternity)

พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงแนะนำหนทางที่องค์กรคาทอลิกสามารถทำให้พระศาสนจักรเติบโตในความเป็นพี่น้องกันได้ คือ

อย่าตื่นตระหนกแม้ต้องเผชิญกับความอ่อนแอของชุมชน ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงทางสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด คนหนุ่มสาวปัจจุบันไม่ชอบการประชุมเหมือกนับ 50 ปี ที่แล้ว ซึ่งก็เป็นการดีเพราะการประชุมไม่ได้ทำให้พระศาสนจักรก้าวหน้าเสมอไป

แต่จงระวังการมีโลกส่วนตัวมากเกินไป การปิดตัวอยู่กับกลุ่มเล็ก ๆ และแนวโน้มต่าง ๆ ที่จะทำให้เรารู้สึกว่าห่างไกลกันและกัน ซึ่งมีผลต่อชีวิตของชุมชนของเรา เราจึงควรตอบโต้และเริ่มต้นการทำงานที่ตัวของเรา

ทำงานกับตัวเอง (“Working” on ourselves)

“การทำงาน” เป็นการเดินทางที่ท้าทายและต้องการความคงเส้นคงวา ความเป็นพี่น้องกันไม่ได้เกิดขึ้นชั่วคราว ไม่ได้สร้างขึ้นด้วยอารมณ์ คำขวัญ และเหตุการณ์เท่านั้น แต่ต้องร่วมงานกับพระจิตเจ้า ผู้ทรงสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันท่ามกลางความหลากหลาย (จงไปอ่านพระสมณสาส์นพระคริสต์ทรงพระชนม์ หรือ Christus vivit เรื่อง เส้นทางแห่งภราดรภาพ อีกครั้ง)

จุดเริ่มต้นคือการออกจากตัวเองเพื่อเปิดตัวเองสู่ผู้อื่น และออกไปพบพวกเขา ความสัมพันธ์นี้จะทำให้เรารู้จักตนเองและเติบโตไปด้วยกัน ความเป็นจริงพื้นฐานสำหรับเราก็คือ ในพระศาสนจักร เราประสบกับการเคลื่อนไหวนี้ในพระเยซูเจ้า ผ่านทางศีลมหาสนิท พระองค์ออกมาจากพระองค์เองและเข้ามาประทับอยู่ในเรา เพื่อที่เราจะออกมาจากตัวเราและเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์และในพระองค์ เราพบว่าตนเองอยู่ในความเป็นหนึ่งเดียวที่เป็นอิสระ ไม่มีเงื่อนไข และเป็นหนึ่งเดียว

ความเป็นพี่น้องในพระศาสนจักรถูกก่อตั้งโดยพระเยซูเจ้า ในการประทับอยู่ของพระองค์ ในเราและท่ามากลางเรา ขอบคุณพระองค์ที่ได้ทำให้เราได้ต้อนรับกันและกัน อดทน และให้อภัยแก่กันและกัน

จงระวังการนินทา (gossiping) อันเป็นเหตุทำให้ชีวิตชุมชนแห่งวามเชื่อต้องเจ็บป่วย เพราะมันสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในพระศาสนจักร

เชื้อแป้งของสังคม (“Leaven” in society)โป๊ปจะเสด็จเยือนบาห์เรนนับเป็นก้าวสำคัญบนหนทางแห่งความเป็นพี่น้อง (Pope’s visit to Bahrain a ‘precious step on path of fraternity’)

พระสันตะปาปาฟรงซิสกำลังเตรียมเดินทางไปประเทศบาห์เรน ในตะวันออกกลาง ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 3 ถึงวันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน 2022 นับเป็นการเดินทางอภิบาลต่างประเทศครั้งที่ 39 อย่างเป็นทางการของพระองค์ เป็นประเทศที่ 58 ที่พระองค์เสด็จไป และเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกที่ได้เสด็จไปประเทศนี้

ก้าวไปตามเส้นทางแห่งการพบปะกันระหว่างศาสนา (Step along path of interfaith encounter)

เป้าหมายหลักสำหรับการเดินทางในครั้งนี้คือ 1) เพื่อการทำศาสนสัมพันธ์ (interreligious dialogue / interfaith encounter) และ 2) ให้กำลังใจคริสตชนท้องถิ่น

พระสันตะปาปาฟรังซิสจะทรงเข้าร่วมพิธีปิด “การประชุมบาห์เรนเพื่อการเสวนา: ตะวันออกและตะวันตกเพื่อการอยู่ร่วมกันของมนุษย์” (Bahrain Forum for Dialogue: East and West for Human Coexistence) ซึ่งได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยจะมีผู้นำศาสนาประมาณ 200 คนมารวมตัวกันเพื่อส่งเสริมความเป็นพี่น้องกัน ตามคำเชื้อเชิญของคณะกรรมการจัดงาน และ กษัตริย์ฮาหมัด บิน อิซา อัล คาลิฟา (King Hamad bin Isa Al Khalifa) แห่งราชอาณาจักรบาห์เรน

การประชุมในครั้งนี้เป็นผลมาจากสนธิสัญญาเรื่องความเป็นพี่น้องกันในปี 2019 ที่กรุงอาบูดาบี (Abu Dhabi) เมืองหลวงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างศาสนาต่าง ๆ

โดยการเสด็จเยือนของพระสันตะปาปาฟรังซิสจะเป็นก้าวสำคัญของการสร้างความเป็นพี่น้องและเสวนาระหว่างศาสนาต่าง ๆ ทั้งนี้ โดยมีการทำสงครามทั้งในยุโรปและในอีกหลายประเทศเป็นฉากหลัง (backdrop) เพื่อหาพันธมิตรในการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในโลก

การให้กำลังใจคริสตชนในบาห์เรน (Encouragement for Catholics in the region)

บาห์เรนมีจำนวนประชากรประมาณ 1.5 ล้านคน มีผู้อพยพคิดเป็น 45% ของประชากรทั้งหมด ประมาณ 74% เป็นมุสลิม และ 9% เป็นคริสตชน นอกจากนั้นแล้วยังมีศาสนาฮินดู พุทธ และยิวอาศัยอยู่ร่วมกั้น

คริสตชนในบาห์เรนมีประมาณ 80,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่เข้าไปทำงาน ได้แก่ อินเดีย ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา ตุรกี ซีเรีย เลบานอน อียิปต์ และจอร์แดน มีคริสตชนที่เป็นชาวบาห์เรนประมาณ 1,000 คนเท่านั้น จึงทำให้บาห์เรนเป็นประเทศเดียวที่มีคริสตชนจำนวนมากอาศัยอยู่ (ประเทศบาห์เรนเป็นเกาะ รอบ ๆ เกาะเรียกว่าอ่าวบาห์เรน ซึ่งเป็นอ่าวขนาดเล็กที่เป็นส่วนหนึ่งของอ่าวเปอร์เซีย)

พระสันตะปาปาฟรังซิสจะพบปะกับผู้คนในที่สาธารณะจำนวน 7 ครั้ง โดย 4 ครั้ง จะทรงพบปะกับบรรดาคริสตชนในบาห์เรน ซึ่งรวมถึงบรรดาเยาวชน พระสงฆ์และนักบวช และคริสตชนจากประเทศเพื่อนบ้านต่าง ๆ

การเสด็จเยือนบาห์เรนในสัปดาห์หน้านี้ ทำให้พระศาสนจักรท้องถิ่นและผู้นำศาสนาต่าง ๆ รอคอยพระดำรัสของพระองค์ สำหรับความหวังและให้กำลังใจบนหนทางแห่งสันติภาพ ท่ามกลางโลกของเราที่มีความขัดแย้งในด้านต่าง ๆ ...

กำหนดการ

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน 2022

09.30 น. ออกเดินทางจากสนามบินฟิอูมิชิโน่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี

16.45 น. เดินทางถึงฐานทัพอากาศสาคีร (Sakhir) ในเมืองอวาลี (Awali) พิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ

17.30 น. เข้าเฝ้ากษัตริย์ฮาหมัด บิน อิซา อัล คาลิฟา ณ ลานพระราชวังสาคีร์

18.10 น. พิธีต้อนรับ ณ ลานพระราชวังสาคีร์

18.30 น. พบผู้นำประเทศ คณะทูต และผู้นำท้องถิ่น (พระสันตะปาปากล่าวสุนทรพจน์ที่ 1)

วันศกร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2022

10.00 น. ร่วมพิธีปิดการประชุม (พระสันตะปาปากล่าวสุนทรพจน์ที่ 2)

16.00 น. พบปะส่วนตัวกับอีหม่ามใหญ่ ชีค อะหมัด เอล-ตาเยบ (Sheikh Ahmad el-Tayeb) แห่งมัสยิดและมหาวิทยาลัยอัล-อาซาร์ (Al-Azhar) ของอียิปต์ ณ พระราชวังที่ประทับของพระสันตะปาปา

16.30 น. พบปะกับสภามุสลิมระดับสูง ในสุเหร่าของพระราชวัง (พระสันตะปาปากล่าวสุนทรพจน์ที่ 3)

17.45 น. พบปะกับผู้นำคริสตชนนิกายต่าง ๆ และภาวนาร่วมกันเพื่อสันติภาพ ณ อาสนวิหารพระนางมารีย์แห่งอาราเบีย (พระสันตะปาปากล่าวสุนทรพจน์ที่ 4)

วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2022

08.30 น. มหาบูชาขอบพระคุณ ณ สนามกีฬาแห่งชาติบาห์เรน (พระสันตะปาปาเทศน์ 5)

17.00 น. พบปะกับเยาวชน ณ โรงเรียนพระหฤทัย (พระสันตะปาปากล่าวสุนทรพจน์ที่ 6)

วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน 2022

09.30 น. พบปะบรรดาบิชอป บาทหลวง นักบวช สามเณร ผู้ทำงานอภิบาล ณ วัดพระหฤทัย เมืองมานามา (Manama) (พระสันตะปาปากล่าวสุนทรพจน์ 7)

12.30 น. พิธีส่งพระสันตะปาปาเสด็จกลับ ณ ฐานทัพอากาศสาคีร (Sakhir) ในเมืองอวาลี (Awali)

13.00 น. ออกเดินทางจากเมืองอวาลี

17.00 น. ถึงสนามบินฟิอูมิชิโน กรุงโรม ประเทศอิตาลี