จากประตูแห่งความเชื่อ สู่ประตูศักดิ์สิทธิ์ (ตอนที่ 5)

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

จากประตูแห่งความเชื่อ สู่ประตูศักดิ์สิทธิ์ (ตอนที่ 5)
PORTA FIDEI (The Door of Faith) to PORTA SANCTA (The Holy Door)

          ความเดิมตอนที่ 4 ได้นำเสนอคนที่มีความเชื่อต้องแสดงออกมาเป็นกิจการ โดยได้แยกแยะขั้นตอนการแสดงออกความเชื่อจาก ความเชื่อ สู่ การเชื่อฟัง และการเชื่อฟังนำสู่ตอบสนองความเชื่อ นั่นคือ การปฏิบัติในสิ่งที่ตนเชื่อ ซึ่งคริสตชนจะเห็นตัวอย่างความเชื่อสู่การปฎิบัติได้ชัดเจน คือ ชีวิตของพระแม่มารีย์

          บุคคลที่ดำเนินชีวิตตามความเชื่อ จะไม่ประพฤตินอกลู่นอกทาง ไม่ดำเนินชีวิตเพื่อเกียรติยศ หรือผลประโยชน์ของตนเอง แต่จะกระทำทุกอย่างเพื่อบุคคลที่เขาเชื่อและเขาจะเดินผ่านประตูที่พระเยซูเจ้าเปิดให้ประตูนี้จะนำไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิตคริสตชน ดั่งที่นักบุญเปโตรได้เขียนในจดหมายของท่านว่า

          ดังนั้นท่านทั้งหลายจงเตรียมจิตใจไว้ให้พร้อมที่จะปฏิบัติงานจงบังคับตนเองตั้งความหวังทั้งหมดไว้ในพระหรรษทานซึ่งพระเจ้าจะทรงนำมาประทานให้เมื่อพระเยซูคริสตเจ้าทรงสำแดงพระองค์จงประพฤติตนดังบุตรที่เชื่อฟังอย่าประพฤติตามกิเลสตัณหาดังแต่ก่อนเมื่อท่านยังขาดความรู้แต่จงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ในความประพฤติทุกประการตามแบบฉบับขององค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ผู้ทรงเรียกท่านเพราะมีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่าท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์เพราะเราเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์(1 เปโตร 1:13-16)

          “ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ เพราะเราเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์” นักบุญเปโตรได้อ้างอิงมาจากหนังสือเลวีนิติ บทที่11ข้อที่ 44“เพราะ​เรา​คือพระ​ยาห์​เวห์พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลายท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​เป็น​ผู้​ศักดิ์สิทธิ์​และ​ปฏิบัติ​ตน​เป็น​ผู้​ศักดิ์สิทธิ์เพราะ​เรา​เป็น​ผู้​ศักดิ์สิทธิ์อย่า​ทำ​ตน​ให้​มี​มลทิน​โดย​สัมผัส​สัตว์​เลื้อย​คลาน​ใด​เหล่า​นี้​ที่อยู่​ตาม​พื้นดิน”และในหนังสือเลวีนิติ บทที่ 19 ข้อที่ 2 “ให้​บอก​ชุมชน​ชาว​อิสราเอล​ทั้งปวง​ว่า“ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​เป็น​ผู้​ศักดิ์สิทธิ์เพราะ​เราพระ​ยาห์​เวห์​พระ​เจ้า​ของ​ท่านเป็น​ผู้​ศักดิ์สิทธิ์”

          คริสตชนจะดำเนินชีวิตอย่างไรถึงจะเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ได้พระเยซูเจ้าแบบอย่างของผู้ศักดิ์สิทธิ์ได้ให้เคล็ดลับของการดำเนินชีวิตที่ศักดิ์สิทธ์ว่า................

          ท่าน​เคย​ได้ยิน​เขา​กล่าว​ว่า‘ตา​ต่อตาฟัน​ต่อ​ฟัน’ แต่​เรา​กล่าว​แก่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ว่าอย่า​โต้ตอบ​คน​ชั่วผู้ใด​ตบ​แก้ม​ขวา​ของ​ท่านจง​หัน​แก้ม​ซ้าย​ให้​เขา​ด้วยผู้ใด​อยาก​ฟ้อง​ท่าน​ที่​ศาล​เพื่อ​จะ​ได้​เสื้อ​ยาว​ของ​ท่านก็​จง​แถม​เสื้อคลุม​ให้​เขา​ด้วย​จะ​เกณฑ์​ให้​ท่าน​เดิน​ไป​กับ​เขา​หนึ่ง​หลักจง​ไป​กับ​เขา​สอง​หลัก​เถิดผู้ใด​ขอ​อะไร​จาก​ท่านก็​จง​ให้อย่า​หัน​หลัง​ให้​ผู้​ที่มา​ขอ​ยืม​สิ่งใด​จาก​ท่าน “ท่าน​ทั้ง​หลาย​ได้ยิน​คำกล่าว​ว่าจงรัก​เพื่อนบ้านจง​เกลียด​ศัตรูแต่​เรา​กล่าว​แก่​ท่าน​ว่าจงรัก​ศัตรูจง​อธิษ​ฐาน​ภาวนา​ให้​ผู้​ที่​เบียด​เบียน​ท่านเพื่อ​ท่าน​จะ​ได้​เป็น​บุตร​ของ​พระ​บิดา​เจ้า​สวรรค์พระ​องค์​โปรด​ให้​ดวงอาทิตย์​ของ​พระ​องค์​ขึ้น​เหนือ​คน​ดี​และ​คน​ชั่วโปรด​ให้​ฝน​ตก​เหนือ​คน​ชอบ​ธรรม​และ​คน​อธรรมถ้า​ท่าน​รัก​แต่​คน​ที่รัก​ท่านท่าน​จะ​ได้​บำเหน็จ​รางวัล​อะไร​เล่าบรรดา​คน​เก็บ​ภาษีมิได้​ทำ​เช่นนี้​ดอก​หรือ​ท่าน​ทักทาย​แต่​พี่​น้อง​ของ​ท่าน​เท่านั้นท่าน​ทำ​อะไร​พิ​เศษ​เล่าคน​ต่าง​ศาสนา​มิได้​ทำ​เช่นนี้​ดอก​หรือฉะนั้น ท่าน​จง​เป็น​คน​ดี​อย่าง​สมบูรณ์ดังที่​พระ​บิดา​เจ้า​สวรรค์​ของ​ท่านทรง​ความ​ดี​อย่าง​สมบูรณ์​เถิด(มธ 5:38-48)

          และในหนังสือฮีบรูได้แนะนำว่า“จง​พยายาม​อยู่​อย่าง​สันติ​กับ​ทุก​คนจง​มี​ความ​ศักดิ์​สิทธิ์​ซึ่ง​จำเป็น​เพื่อ​จะ​ได้​เห็น​พระ​เจ้าจง​ระวัง​อย่า​ให้​มี​ผู้ใด​ขาด​พระ​หรรษ​ทาน​ของ​พระ​เจ้าและ​อย่า​ให้​มี​ราก​แห่ง​ความ​ขมขื่น​ใดๆงอก​ขึ้น​มา​ก่อ​ความ​วุ่นวาย​ซึ่ง​อาจ​จะ​เป็น​พิษ​แก่​คน​จำนวน​มากอย่า​ให้​ผู้ใด​ทำ​ผิด​ประเวณี​หรือ​ดูหมิ่น​สิ่งศักดิ์​สิทธิ์​เหมือน​กับ​เอ​ซาวซึ่ง​ขาย​สิทธิ​การ​เป็น​บุตร​คน​แรก​ของ​ตน​เพียง​เพื่อ​แลก​กับ​อาหาร​มื้อ​เดียว(ฮีบรู 12:14-16)

          คริสตชนถูกเรียกมาให้เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ เหมือนพระเป็นเจ้าซึ่งเป็นผู้ศักดิ์สิทธ์ คำแนะนำของพระเยซูเจ้าในมัทธิ 5:38-48 และ ฮีบรู 12:14-16 คือประตูแห่งความศักดิ์สิทธิ์

 

(ติดตามตอนต่อไป)

จากประตูแห่งความเชื่อ สู่ประตูศักดิ์สิทธิ์ (ตอนที่ 6)