จากประตูแห่งความเชื่อ สู่ประตูศักดิ์สิทธิ์ (ตอนที่ 4)

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

จากประตูแห่งความเชื่อ สู่ประตูศักดิ์สิทธิ์ (ตอนที่ 4)
PORTA FIDEI (The Door of Faith) to PORTA SANCTA (The Holy Door)

          ความเดิมตอนที่แล้ว (ตอนที่ 2 และ3) ได้พูดถึงความเชื่อของคริสตชน จำเป็นต้องแสดงออกถึงความเชื่อนั้นให้เป็นชีวิตของตนให้ได้ ต้องทำความเชื่อให้มีกิจการที่คนรอบข้างสัมผัสได้โดยยกตัวอย่างของบุคคลในพระคัมภีร์ทั้งพันธสัญญาเก่าและพันธสัญญาใหม่

          บุคคลที่ได้ยกตัวอย่างทั้งในพันธสัญญาเดิมและใหม่นั้นพอที่จะแยกแยะขั้นตอนในการดำเนินชีวิตตามความเชื่อของเขาได้ดังนี้

ความเชื่อ (faith) ------ เชื่อฟัง(Obedience) ------ ตอบสนอง (Response)
ตัวอย่างเช่น     ตัวอย่างเช่น     ตัวอย่างเช่น  
- เชื่อในพระเป็นเจ้า   - ฟังคำสั่งสอนที่พระเป็นเจ้าสอน   - ปฏิบัติตามคำสั่งสอนนั้น
- เชื่อในพระเยซูเจ้า   - ฟังสิ่งที่พระเป็นเจ้าตรัสกับเขา   - นำพระวาจามาเป็นชีวิต

- เชื่อในความจริงที่พระเป็นเจ้า
เปิดเผย

       
(เชื่อบุคคล)   ผ่านทางพระคัมภีร์    (ปฎิบัติตามคำสอนเพื่อบุคคลที่เชื่อ)
    (ฟังคำสอนของบุคคลที่เราเชื่อ)    


          คนที่บอกว่าเป็นผู้มีความเชื่อนั้น เราดูได้จากการดำเนินชีวิตและการตอบสนองความเชื่อของเขาที่มีต่อความเชื่อนั้น หนังสือคำสอนของพระศาสนจักร ภาคที่ 1 ข้อที่ 166 สอนว่า “ความเชื่อเป็นกิจส่วนตัว เป็นการตอบสนองอย่างอิสระของมนุษย์ต่อพระดำริริเริ่มของพระเจ้าผู้สำแดงพระองค์ และข้อ 180 สอนว่า "เชื่อ" เป็นกิจการของมนุษย์ ซึ่งกระทำอย่างมีสำนึกและอิสระ และสอดคล้องต้องตามศักดิ์ศรีของตัวบุคคลผู้เป็นมนุษย์

          ด้วยเหตุนี้…………………….

  • คนที่มีความเชื่อจะเดินอยู่บนหนทางที่เขาเชื่อ ไม่เดินนอกลู่นอกทาง  เหมือนอย่างนักบุญยอห์น แป๊ปติสได้เตือนว่า “​จง​ประพฤติ​ตน​ให้​สม​กับ​ที่​ได้​กลับใจ​แล้ว​เถิด (มธ. 3:8)
  • คนที่มีความเชื่อจะไม่ดำเนินชีวิตเพื่อเกียรติยศ หรือผลประโยชน์ของตนเอง แต่จะกระทำทุกอย่างเพื่อบุคคลที่เขาเชื่อ ดั่งตัวอย่างจากพระวรสารนักบุญยอห์นบทที่ 7 ข้อที่ 14-18 “​เมื่อ​เทศกาล​ฉลอง​ผ่าน​ไป​ครึ่งหนึ่ง​แล้ว ​พระ​เยซู​เจ้า​เสด็จ​ขึ้น​ไป​ยัง​พระ​วิหาร และ​ทรง​เริ่ม​เทศน์​สอน ​ชาว​ยิว​ต่าง​ประ​หลาด​ใจ กล่าว​ว่า “ผู้​นี้​รู้​พระ​คัมภีร์​ได้​อย่างไร เพราะ​ไม่​เคย​ศึกษา​ใน​สำนัก​ใด​เลย”​​พระ​เยซู​เจ้า​ตรัส​ตอบ​เขา​ว่า “คำสอน​ของ​เรา​ไม่​ใช่​ของ​เรา แต่​เป็น​ของ​พระ​องค์​ผู้​ทรง​ส่ง​เรา​มา ​ผู้ใด​ต้อง​การ​ทำ​ตาม​พระ​ประสงค์​ของ​พระ​เจ้า ผู้​นั้น​จะ​รู้​ว่า​คำสอน​นี้​มา​จาก​พระ​เจ้า หรือว่า​เรา​พูด​ตามใจ​ตนเอง ​ผู้​ที่​พูด​ตามใจ​ตนเอง ย่อม​แสวงหา​เกียรติ​ของ​ตน แต่​ผู้​ที่​แสวงหา​พระ​สิริ​รุ่งโรจน์​ของ​ผู้​ทรง​ส่ง​เขา​มา ย่อม​พูด​ความ​จริง และ​ไม่​มี​ความ​ทุจริต​แต่อย่างใด (ยอห์น 7: 14-18)
  •  และพระเยซูทรงเตือนบรรดาผู้ที่มึความเชื่อ ขณะที่ พระองค์ทรงเทศนาบนภูเขาว่า ต้นไม้ทุกต้นจะรู้จักได้โดยผลของมัน (มัทธิว 7:16) และว่า ต้นไม้ทุกต้นที่ไม่เกิดผลดีจะถูกโค่นลงและโยนลงในไฟ (มัทธิว 7:19)
  •  ผู้ที่มีความเชื่อจะเดินผ่านประตูที่พระเยซูเจ้าเปิดให้ พระเยซูเจ้าตรัสว่า “​เรา​เป็น​ประตู ผู้​ที่​เข้า​มา​ทาง​เรา​ก็​จะ​รอด​พ้น เขา​จะ​เข้า​จะ​ออก และ​จะ​พบ​ทุ่งหญ้า” (ยอห์น. 10:9 ) หนังสือวิวรณ์เขียนว่า เรารู้จักกิจการของท่าน เราเปิดประตูที่ไม่มีผู้ใดปิดได้ไว้ต่อหน้าท่าน เพราะท่านมีกำลังน้อย และเพราะท่านปฏิบัติตามวาจาของเรา ไม่ปฏิเสธนามของเรา” (วิวรณ์ 3:8)

          ดังนั้น คนที่มีความเชื่อ จะเป็นผู้ตอบสนองความเชื่อด้วยการดำเนินชีวิตที่ดีเท่านั้น จะเป็นผู้เดินในหนทางที่จะนำสู่การเติบโตในความศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตประจำวัน (NMI 30-31)1เสมอ จะเป็นผู้เดินผ่านทางประตูที่นำสู่ความศักดิ์สิทธิ์2 เพราะ “นี่​คือ​พระ​ประสงค์​ของ​พระ​เจ้า คือ​ให้​ท่าน​เป็น​ผู้​ศักดิ์​สิทธิ์” (1ธส. 4:3)

 


Novo Millennio Ineunte พระสมณสาสน์ “สู่สหัสวรรษใหม่”

สาสน์ของสมเด็จพระสันตะปาปานักบุญยอห์น ปอลที่ 2 ถึงเยาวชนทั่วโลก โอกาสวันเยาวชนโลกครั้งที่ 17 ค.ศ. 2002

 

(ติดตามตอนต่อไป)

จากประตูแห่งความเชื่อ สู่ประตูศักดิ์สิทธิ์ (ตอนที่ 5)