จากประตูแห่งความเชื่อ สู่ประตูศักดิ์สิทธิ์ (ตอนที่ 2)

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

จากประตูแห่งความเชื่อ สู่ประตูศักดิ์สิทธิ์ (ตอนที่ 2)
PORTA FIDEI (The Door of Faith) to PORTA SANCTA (The Holy Door)

ความเดิมเมื่อตอนที่แล้ว “ปีแห่งความเชื่อ” คือปีที่รณรงค์และเรียกร้องบรรดาสัตบุรุษให้กลับใจใหม่ เข้าหาพระเยซูคริสตเจ้า ผู้ทรงเป็นพระผู้ไถ่แต่พระองค์เดียวของโลก สาเหตุเพราะปัจจุบันคริสตชนมากมายได้รับผลกระทบจากวิกฤติลึกของความเชื่อ” (ประตูแห่งความเชื่อ: หน้า 10) คริสตชนจึงมีความจำเป็นที่ต้องหันกลับมาค้นพบหนทางสู่ความเชื่อ กระตือรือร้นที่จะมีประสบการณ์พบปะกับพระคริสตเจ้าอีกครั้งหนึ่ง และเรียกร้องให้คริสตชนใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ ในการดำเนินชีวิตตามวัฒนธรรมแห่งศาสนาเพื่อรื้อฟื้นความเชื่อ เพื่อเข้าใจความเชื่อ ให้ลึกซึ้ง และเพื่อแบ่งปันความเชื่อดังกล่าวให้กับผู้อื่น ไม่ใช่ด้วยการสอนเท่านั้น    แต่ด้วยการกระทำที่เป็นแบบฉบับแห่งความรักของคริสตชนด้วย (ประตูแห่งความเชื่อ: หน้า 32-35)

แม้กำหนดระยะเวลาแห่งการฉลอง “ปีความเชื่อ” จะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ “ความเชื่อในพระเป็นเจ้า” ไม่ได้ปิดตามกำหนดระยะเวลา(เดือนตุลาคม 2012 ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2013) คริสตชนยังเชื่อในพระเป็นเจ้าต่อไป ยืนยันความเชื่อของตนอย่างเข้มข้นต่อไป

การดำเนินชีวิตประจำวันของคริสตชนจะเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า ความเชื่อของคริสตชนคนนั้นเป็นอย่างไร? ด้วยเหตุนี้คริสตชนที่ประกาศยืนยันความเชื่อในทุกมิสซาวันอาทิตย์หรือวันฉลอง  ต้องทำสิ่งที่คริสตชนประกาศความเชื่อนั้นให้เป็นชีวิตของตนให้ได้ ต้องทำความเชื่อให้มีกิจการที่คนรอบข้างสัมผัสได้ว่า “เราเป็นผู้ที่มีความเชื่อในพระเป็นเจ้าอย่างแท้จริง”

มีตัวอย่างมากมายในพระคัมภีร์ที่บอกกับว่า “เราควรดำเนินชีวิตตามความเชื่อของเราอย่างไร?” ตัวอย่างเช่น จดหมายถึงชาวฮีบรู เป็นจดหมายเขียนถึงคริสตชนที่เป็นยิว บรรดาชาวยิวได้กลับใจมาเป็นคริสตชน ก็ได้ออกจากกรุงเยรูซาเล็มไปหลบภัยอยู่ตามเมืองชายฝั่ง เช่น เมืองซีซารียาหรือเมืองอันทิโอก  พวกเขารู้สึกเบื่อหน่ายที่ต้องพรากจากบ้านเกิดเมืองนอนและคิดเสียดายที่ต้องละทิ้งพิธีกรรมที่สง่างามในพระวิหารนั้น ความเชื่อใหม่ของพวกเขายังไม่เข้มแข็ง และเขาเหล่านั้นยังไม่เข้าใจความเชื่อนี้อย่างถูกต้อง การเบียดเบียนทำให้เขาท้อแท้ และมีแนวโน้มที่จะกลับไปถือสัทธิยิวตามเดิม1 จดหมายนี้จึงเขียนเพื่อให้คริสตชนยิวมีความเชื่อที่ถูกต้อง รวมทั้งในเรื่องของคารวกิจและจารีตพิธีต่าง ๆ นอกจากนี้ยังให้แบบอย่างผู้ที่มีความเชื่อแก่คริสตชนชาวยิว ตั้งแต่บทที่ 1 – 10 จดหมายถึงฮีบรูได้กระตุ้น เตือนใจว่า ชีวิตแห่งความเชื่อในพระเป็นเจ้า คือชีวิตแห่งการไว้วางใจในพระเป็นเจ้า จดหมายถึงชาวฮีบรูบทที่ 11 เน้นตัวอย่างของผู้ที่มีความเชื่อ เริ่มต้นบทที่ 11 ด้วย ความหมายของความเชื่อ อีกครั้ง

ความเชื่อคือความมั่นใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นข้อพิสูจน์ถึงสิ่งที่มองไม่เห็น เพราะความเชื่อนี้ คนในสมัยก่อนจึงได้รับการยกย่องในพระคัมภีร์ เพราะความเชื่อ เราจึงเข้าใจว่าพระวาจาของพระเจ้าเนรมิตสร้างโลก ดังนั้น สิ่งที่มนุษย์มองเห็นได้จึงเกิดขึ้นจากสิ่งที่มนุษย์มองไม่เห็น  (ฮีบรู 11:1-3)

หลังจากนี้เป็นตัวอย่างบุคคลที่เชื่อในพระเป็นเจ้า พี่น้องที่ได้อ่านจดหมายถึงฮีบรูบทที่ 11 ข้อที่ 4 เป็นต้นไป จะพบคำเริ่มต้นว่า “เพราะความเชื่อ....... คนนั้น คนนี้ได้แสดงความเชื่ออย่างไรบ้าง? เช่น

เพราะความเชื่อ อา​แบล​จึง​ถวาย​เครื่อง​บูชา​ที่​ดี​กว่า​เครื่อง​บูชา​ของ​คา​อิน​แด่​พระ​เจ้า ทำ​ให้​เขา​ได้​รับ​การ​ยกย่อง​ว่า​เป็น​ผู้​ชอบ​ธรรม โดย​พระ​เจ้า​ทรง​รับรอง​บรรณาการ​ของ​เขา เพราะ​ความ​เชื่อ​นี้ แม้ว่า​อา​แบล​ล่วงลับ​ไป​แล้ว เขา​ก็​ยัง​พูด​อยู่​ทั้งๆ ที่​ตาย​แล้ว (ฮีบรู 11:4)

เพราะความเชื่อ เมื่อ​โน​อาห์​ได้​รับคำ​เตือน​ของ​พระ​เจ้า​เกี่ยวกับ​เรื่อง​ที่​ยัง​มิได้​เห็น เขา​จึง​มี​ความ​ยำเกรง​พระ​องค์​และ​สร้าง​เรือ​ใหญ่​เพื่อ​ช่วย​ให้​ครอบครัว​ของ​ตน​รอด​ตาย และ​เพราะ​ความ​เชื่อ​นี้​เอง เขา​ตัดสิน​ลงโทษ​โลกและ​ได้​เป็น​ทายาท​แห่ง​ความ​ชอบ​ธรรม​ซึ่ง​บังเกิด​มา​จาก​ความ​เชื่อ (ฮีบรู 11:7)

เพราะความเชื่อ อับ​รา​ฮัม​เชื่อฟัง​เมื่อ​พระ​เจ้า​ทรง​เรียก​ให้​ออก​เดินทาง​ไป​สู่​สถานที่​ที่​เขา​จะ​ได้​รับ​เป็น​มรดก เขา​ออก​เดินทาง​ไป​โดย​ไม่​รู้​ว่า​จะ​ไป​ไหน (ฮีบรู 11:8)

เพราะความเชื่อ แม้​นาง​ซา​ราห์​จะ​พ้น​วัย​ให้​กำเนิด​แล้ว พระ​เจ้า​ยัง​ทรง​บันดาล​ให้​ตั้ง​ครรภ์​ได้ เพราะ​นาง​เชื่อ​ว่า​พระ​องค์​ผู้​ทรง​สัญญา​จะ​ทรง​ซื่อสัตย์​ต่อ​คำสัญญา​นั้น (ฮีบรู 11:11)

เพราะความเชื่อ เมื่อ​พระ​เจ้า​ทรง​ลองใจ อับ​รา​ฮัม​จึง​ถวาย​อิสอัค เขา​ผู้​ได้​รับ​พระ​สัญญา​ก็​ถวาย​บุตร​คน​เดียว​ของ​ตน (ฮีบรู 11:17)

เพราะความเชื่อ โมเสส​จึง​ออก​จาก​ประเทศ​อียิปต์​โดย​ไม่​กลัว​พระ​พิ​โร​ธ​ของ​กษัตริย์ เขา​ไม่​หวั่นไหว​เหมือน​ได้​เห็น​พระ​เจ้า​ที่​มนุษย์​มองเห็น​ไม่​ได้ (ฮีบรู 11:27)

ข้าพเจ้ายังจะต้องพูดอะไรอีกหรือ ข้าพเจ้าไม่มีเวลาจะเล่าเรื่องกิเดโอน บาราค แซมสัน เยฟธาห์ ดาวิด ซามูเอลและบรรดาประกาศก

เพราะความเชื่อ เขา​เหล่า​นี้​จึง​พิชิต​อาณา​จักร ปฏิบัติ​ความ​ยุติธรรม ได้​รับ​พระ​สัญญา ปิดปาก​สิงโต ดับ​ไฟ​ร้อนแรง พ้น​จาก​คม​ดาบ ได้​รับ​พละกำลัง​พ้น​จาก​ความ​อ่อน​แอ กลาย​เป็น​ผู้​เข้มแข็ง​ใน​สงคราม​และ​ขับไล่​กองทัพ​ต่างชาติ​ให้​พ่าย​ไป หญิง​บาง​คน​ได้​รับ​ผู้ตาย​ของ​ตน​ที่​กลับคืน​ชีพ บาง​คน​ถูก​ทรมาน​จน​ตาย ไม่​ยอมรับ​การ​ปลดปล่อย เพื่อ​จะ​กลับคืน​ชีพ​มา​รับ​ชีวิต​ที่​ดี​กว่า บาง​คน​ถูก​สบ​ประมาท ถูก​โบย​ตี​และ​ยัง​ถูก​ล่าม​โซ่​จำคุก​อีก​ด้วย เขา​ถูก​หิน​ทุ่ม ถูก​เลื่อย​เป็น​สอง​ส่วนตาย​ด้วย​คม​ดาบ บาง​คน​นุ่งห่ม​หนัง​แกะ​หนัง​แพะ​ร่อนเร่​ไป ขัดสน ได้​รับ​ความ​ยาก​ลำบาก ถูก​ข่มเหง โลก​นี้​ไม่​เหมาะ​กับ​เขา​เหล่า​นี้ พวกเขา​ระหกระเหิน​ไป​ใน​ถิ่น​ทุร​กัน​ดาร ตาม​ภูเขา ใน​ถ้ำ​และ​ตาม​โพรงคน​เหล่า​นี้​ทุก​คน แม้ว่า​พระ​เจ้า​ทรง​ยกย่อง​เขา​เพราะ​ความ​เชื่อ​แล้ว เขา​ก็​ยัง​มิได้​รับ​สิ่ง​ที่​ทรง​สัญญา​ไว้ พระ​เจ้า​ทรง​จัดเตรียม​สิ่ง​ที่​ดี​กว่า​ไว้​ให้​เรา เพื่อ​เขา​เหล่า​นั้น​จะ​ได้​รับ​ความ​ดี​บริบูรณ์​พร้อมกับ​พวกเรา​นั่นเอง (ฮีบรู 11:33-40)

จากตัวอย่างในบทจดหมายถึงฮีบรู บทที่ 11 จะเป็นตัวอย่างให้เรา ยืนยันความเชื่อของเราต่อไปอย่างมั่นคง ถ้าท่านมีความเชื่อ ท่านจะเห็น (แสงสว่างแห่งความเชื่อ (Lumen Fidei) ข้อ 1)



1 พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ ฉบับฉลองพระคาร์ดินัล ไม่เกิ้ล มีชัย กิจบุญชู โอกาสได้รับการแต่งตั้งเป็นคาร์ดินัล ครบ 25 ปี หน้า 495

 

(ติดตามตอนต่อไป)

จากประตูแห่งความเชื่อ สู่ประตูศักดิ์สิทธิ์ (ตอนที่ 3)