พระเยซูเจ้าตรัสกับเปโตรทีสวนเกทเสมนีว่า “ท่านตื่นเฝ้าอยู่กับเราสักหนึ่งชั่วโมงไม่ได้หรือ” (มธ ๒๖:๔๐) แต่สำหรับเราขอแค่ ๑ นาทีกับพระเมตตาของพระเยซูเจ้าไม่ได้หรือ.....
“จงพักอยู่กับพวกเราเถิด พระเจ้าข้า” [ลก. ๒๔:๒๙]
วันนี้ เราได้พักใจในอารามแห่งนี้ (บ้านคราคูฟ) จงบอกชาวโลกเกี่ยวกับความเมตตาและความรักของเรา (๑๐๗๔)
วันที่ 4 กันยายน
เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยธรรมชาติของเราเอง
วันศุกร์หลังรับศีลมหาสนิท จิตดิฉันถูกนำไปอยู่เบื้องหน้าบัลลังก์ของพระเจ้า ดิฉันเห็นบรรดานิกรมหาอำนาจกำลังสรรเสริญพระเจ้าไม่หยุดหย่อน ดิฉันเห็นความสว่างที่บรรดาสิ่งสร้างไม่สามารถเข้าไปได้เหนือบัลลังก์นั้น และที่นั่น มีเพียงพระวจนาตถ์ผู้ทรงรับสภาพมนุษย์เท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ในฐานะคนกลาง เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาในแสงสว่างดิฉันได้ยินถ้อยความดังนี้ “จงเขียนสิ่งที่ลูกได้ยินในทันที: เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยธรรมชาติของเราเอง เราอยู่เหนือคำสั่งหรือความต้องการทั้งหลาย เมื่อเราบันดาลให้สิ่งสร้างทั้งหลายดำรงอยู่ นั่นคือความเมตตาเหลือล้นพ้นประมาณของเรา” แล้วในช่วงนั้นเอง ดิฉันก็พบตัวเองอยู่ในวัดน้อยเหมือนก่อนหน้านี้ตอนมิสซาเพิ่งจบลง ดิฉันได้บันทึกถ้อยความเหล่านี้ไว้แล้ว
(บันทึกพระเมตตาในวิญญาณนักบุญโฟสตินา ข้อ ๘๕)
ภาวนาตอบรับพระเมตตา
ข้าแต่พระเยซูเจ้า “กษัตริย์แห่งความเมตตา ลูกได้มาอยู่ตามลำพังกับพระองค์อีกครั้งหนึ่ง ลูกจึงวอนขอพระองค์ได้โปรดทำลายความรักตัวเองของลูกให้ราบคาบไปด้วยความรักอันเร่าร้อนในดวงพระทัยของพระองค์ หรืออีกนัยหนึ่งขอทรงโปรดจุดไฟรักอันบริสุทธิ์ยิ่งของพระองค์ในดวงใจของลูกเถิด” (บันทึกวิญญาณนักบุญโฟสตินา:๓๑๗)
ข้าแต่พระผู้ทรงฤทธิ์ “ทรงเป็นมรดกส่วนของข้าพเจ้า และทรงเป็นชะตากรรมของข้าพเจ้า พระองค์เท่านั้นทรงคุ้มครองชะตาชีวิตของข้าพเจ้าให้ปลอดภัย” (สดด.๑๖:๕)
โอ้ พระโลหิตและน้ำ ซึ่งหลั่งไหลมาจากพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าเป็นท่อธารพระเมตตาเพื่อลูกทั้งหลายลูกวางใจในพระองค์!
อาแมน
คุณพ่อเอนก นามวงษ์