พ่อเล่าเรื่อง 71 พระศาสนจักรตะวันออก

บทเรียนจากสงครามที่ถูกละเลย

(Lessons of war still being unheeded)

เมื่อวันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 พระสันตะปาปาฟรังซิสได้ทรงพบปะกับกลุ่มผู้นำพระศาสนจักรตะวันออกนิกายต่าง ๆ ซึ่งก่อตั้งโดยพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 15 ทรงตรัสว่า มนุษยชาติดูเหมือนว่ายังคงอยู่ในความมืดมิด การสังหารหมู่ในตะวันออกกลาง ในซีเรีย อีรัก และยุโรปตะวันออก

ความไม่มีอารยธรรมของสงคราม (Incivility of war)

พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 15 ได้ก่อตั้งกลุ่มพระศาสนจักรตะวันออกขึ้น เพื่อส่งเสริมเอกภาพในพระศาสนจักรของพระเยซูเจ้า ไม่ว่าจะใช้ภาษาลาติน กรีก หรือสโลโวนิก แต่ก็ไม่ได้สร้างความแตกแยกระหว่างกัน การทำสงครามเป็นการฆ่ากันที่ไร้ประโยชน์ พระองค์ได้เตือนสติชาวโลกถึงการทำสงครามโลกครั้งที่ 1 เช่นเดียวกับนักบุญพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ที่ได้วิงวอนขอการยุติสงครามในอีรัก

ในยุคของเรายังมีการสังหารหมู่ในตะวันออกกลาง ซีเรีย อีรัก เอธิโอเปีย และเลบานอน ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดและเติบโตของพระศาสนจักรต่าง ๆ ในตะวันออก หลายคนในพวกท่าน และที่ทำงานในกระทรวงต่าง ๆ ของวาติกันเกิดและเป็นลูกหลานจากที่นั่น

มนุษยชาติที่กำลังก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์ ในความคิดสร้างสรรค์มากมาย แต่กลับล้าหลังในการสร้างสันติภาพ เรายึดติดกับการทำสงคราม ความขัดแย้ง นี่เป็นเรื่องที่น่าเศร้า เราต้องสวดภาวนาและวอนขอการให้อภัยสำหรับทัศนคติเหล่านี้ เช่นเดียวกับที่กำลังเกิดขึ้นในยุโรปตะวันออก ไฟและความร้อนของอาวุธ ได้ทำให้หัวใจของคนยากจนและเด็ก ๆ ต้องเหน็บหนาว

พลังของการฟัง (The power of listening)

การประกาศข่าวดีและความต้องการที่จะฟัง มีความสำคัญมากกว่าความร่ำรวยของความแตกต่างทางด้านประเพณีต่าง ๆ เป็นพิเศษ กระบวนการสอนคำสอนผู้ใหญ่และเด็ก ที่เป็นสิ่งหนึ่งในธรรมเนียมปฏิบัติของพระศาสนจักรตะวันออก ยังคงได้รับการสืบสานต่อมาจนกระทั่งในปัจจุบัน เช่นเดียวกับดินเหนียวที่ถูกปั้นขึ้น ฉันใดก็ฉันนั้น มนุษยชาติจะต้องถูกสร้างขึ้นมา ไม่ใช่แค่เปลี่ยนแปลงความคิดเห็น หรือแค่วิพากวิจารณ์ทางสังคมที่ไม่มีประโยชน์ แต่ด้วยพระวาจาของพระเจ้าและพระจิตของพระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ

ในสัปดาห์นี้จะมีการฉลอง 25 ปี แห่งการปรับพิธีกรรมของพระศาสนจักรตะวันออกต่าง ๆ ตามกฎหมายของพระศาสนจักร โอกาสนี้ได้ทำให้เราได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้นผ่านทางรูปแบบพิธีกรรมอันหลากหลายของพระศาสนจักรต่าง ๆ เป็นการเชื้อเชิญพวกเราให้ก้าวเดินไปด้วยกัน ตามจิตตารมณ์ของสังคายนาวาติกันที่ 2 เรื่องคริสตศาสนจักรสัมพันธ์ ความเป็นหนึ่งเดียวกันในวงดนตรีของพระศาสนจักร ควรที่จะอยู่บนรากฐานของการฟังซึ่งกันและกันอยู่เสมอ ขณะเดียวกัน ก็ยังคงรักษาอัตลักษณ์ของแต่ละคนเอาไว้

ประจักษ์พยานแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกัน (Witness of communion)

ขอให้เราได้ระลึกพี่น้องคริสตจักรออร์ทอด็อกซ์และออร์ทอด็อกซ์ตะวันออกด้วย แม้ว่าเราจะไม่สามารถร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณเดียวกันได้ แต่เราก็ใช้หนังสือพิธีกรรมที่คล้ายกัน ดังนั้น ให้เราได้พยายามใช้ทุกวิถีทาง เพื่อที่จะมุ่งไปสู่หนทางแห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่สามารถเห็นได้ของการเป็นศิษย์ของพระเยซูคริสตเจ้าทุกคน แม้เราจะมีพิธีกรรมที่แตกต่างกัน แต่เราก็เป็นหนึ่งเดียวกัน ..