ก้าวไปกับโป๊ป #359 : ทุกสงครามคือความพ่ายแพ้! (Every war is a defeat!)



เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 ตลาคม 2023 ระหว่างการพบปะประชาชนหลังการนำภาวนาบททูตสวรรค์แจ้งสาร พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเรียกร้องให้ยุติการโจมตีอิสราเอลและปาเลสไตน์

“โปรดหยุดการโจมตีและอาวุธ และเข้าใจว่าการก่อการร้าย และสงคราม ไม่ได้นำไปสู่วิธีแก้ปัญหาใด ๆ แต่นำไปสู่ความตาย และความทุกข์ทรมานของผู้บริสุทธิ์จำนวนมากเท่านั้น สงครามย่อมเป็นความพ่ายแพ้เสมอ! ทุกสงครามคือความพ่ายแพ้!”

พระสันตะปาปาตรัสว่าพระองค์ทรงติดตาม “ด้วยความวิตกและความโศกเศร้า” ข่าวล่าสุดจากอิสราเอล “ที่ซึ่งความรุนแรงได้ปะทุขึ้นอย่างดุเดือดยิ่งขึ้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายร้อยคน” (จำนวนผู้เสียชีวิต ณ วันนั้น)

พระองค์แสดงความเห็นอกเห็นใจต่อครอบครัวของเหยื่อ และตรัสว่าพระองค์กำลังอธิษฐานภาวนาเพื่อพวกเขาและสำหรับ “ทุกคนที่กำลังประสบกับความหวาดกลัวและความปวดร้าวหลายชั่วโมง” และพระองค์ยังทรงเชิญชวนทุกคนให้อธิษฐานภาวนาเพื่อสันติภาพในอิสราเอลและปาเลสไตน์อีกด้วย

ความรุนแรงครั้งใหม่ปะทุขึ้นอย่างไม่คาดคิดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เมื่อวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2023 ที่ผ่านมา เมื่อกลุ่มติดอาวุธฮามาสชาวปาเลสไตน์ เปิดฉากโจมตีอิสราเอลอย่างไม่คาดคิด ด้วยการยิงจรวดหลายร้อยลูก และการโจมตีด้วยอาวุธเข้าสู่อิสราเอล

อิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศตอบโต้ทันที และนายกรัฐมนตรีของประเทศอิสราเอลกล่าวว่า “ประเทศนี้อยู่ในภาวะสงคราม”

รายงานที่ไม่ได้รับการยืนยันระบุว่ามีชาวปาเลสไตน์มากกว่า 400 คนถูกสังหารทางตอนใต้ของอิสราเอลและฉนวนกาซา และอีกหลายสิบคนถูกจับกุม มีรายงานว่าชาวอิสราเอลราว 300 คนถูกสังหาร และอีกหลายสิบคนถูกลักพาตัว ตามรายงานของแหล่งข่าวบางแห่งในอิสราเอล (ณ ปัจจุบันจำนวนผู้เสียชีวิตและถูกกักตัวเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว)

ในแถลงการณ์ที่ออกเมื่อวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2023 บิชอปจารีตลาตินแห่งเยรูซาเลมคร่ำครวญว่า “จำนวนผู้เสียชีวิตและโศกนาฏกรรมที่มากเกินไป ซึ่งทั้งครอบครัวชาวปาเลสไตน์ และครอบครัวอิสราเอลต้องรับมือ จะสร้างความเกลียดชัง และความแตกแยกเพิ่มมากขึ้น และจะทำลายมุมมองของเสถียรภาพใด ๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ”

คำแถลงดังกล่าวเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศและผู้นำศาสนา “ใช้ความพยายามทุกวิถีทาง ในการช่วยลดความรุนแรงของสถานการณ์ คืนความสงบ และทำงานเพื่อรับประกันสิทธิพื้นฐานของผู้คนในภูมิภาค”

บิชอปท่านนึ้ยืนยันถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งที่เรียกว่า "สถานะเดิม" ที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเยรูซาเล็ม และ "ความจำเป็นเร่งด่วนในการค้นหาแนวทางแก้ไขที่ยั่งยืน และครอบคลุมต่อความขัดแย้งระหว่างปาเลสไตน์-อิสราเอลในดินแดนนี้"

คำกล่าวของท่านปิดท้ายด้วยคำอธิษฐานภาวนาที่ว่าพระเจ้าจะ "ทรงดลใจผู้นำโลกในการแทรกแซง เพื่อดำเนินการสันติภาพและความปรองดอง เพื่อที่กรุงเยรูซาเล็มจะได้เป็นบ้านแห่งการอธิษฐานภาวนาสำหรับทุกคน"