รำพึงพระวาจาประจำวัน วันที่ 30 มกราคม 2562 วันพุธสัปดาห์ที่ 3 เทศกาลธรรมดา [ฮบ.10:11-18; สดด; 110:1-4; มก.4:1-20] ผู้หว่านพืชนั้นหว่านพระวาจา (มก.4:14)
อุปมาเรื่องผู้หว่าน พระเยซูเจ้าไม่ได้ตรัสถึงบุคคลที่เป็น "ชาวนา"หรือ "ชาวสวน" พระองค์เพียงตรัสว่า <<ชายคนหนึ่งออกไปหว่านเมล็ดพืช>>(มก.4:3) อย่างไรก็ตาม เราสามารถติดตามเรื่องราวที่พระเยซูเจ้าตรัสในเรื่องผู้หว่านได้ 8 <<พระวาจาของพระเจ้าเป็นพระวาจาที่มีชีวิตและบังเกิดผล>> (ฮบ.4:12)<<เมล็ดพืชคือพระวาจา>>(มก.4:14)ซึ่งเป็นเมล็ดพืชที่ไม่ได้เติบโตอาศัยทักษะของผู้หว่าน เพราะพระวาจาสำคัญมากกว่าตัวผู้หว่าน 8 เมล็ดพืชหรือพระวาจา อาศัยทักษะของผู้หว่านคือ ออกไปหว่านพืช ออกไปหว่านพระวาจา<<จงประกาศพระวาจาจงพร้อมสรรพทั้งเมื่อมีโอกาสและเมื่อไม่มีโอกาส>>(2ทธ.4:2) หากผู้หว่านไม่ออกไปหว่านเมล็ดพืช เมล็ดพืชนั้นก็ไร้ค่า และจะเน่าไปในที่สุด 8 ผู้หว่านจะต้องหว่านเมล็ดพืชไปทุก ๆ ที เช่นกัน การหว่านพระวาจาจะต้องหว่านไปทุก ๆ ที ผู้หว่านต้อง<<เป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์และรอบคอบซึ่งนายแต่งตั้งให้ดูแลผู้รับใช้เพื่อแจกจ่ายอาหารให้ตามเวลาที่กำหนด>>(มธ.24:45)<<พี่น้องที่รักทั้งหลาย จงมั่นคง อย่าหวั่นไหว จงออกแรงทำงานขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้มากยิ่งขึ้นเสมอ ท่านรู้อยู่แล้วว่า งานหนักของท่านไม่สูญเปล่าสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า>>(1คร.15:58) 8 พระวาจาที่ได้รับการหว่าน จะเกิดผลอาศัยพระหรรษทานจากพระเจ้า<<ส่วนเมล็ดพืชที่ตกในที่ดินดีหมายถึงบุคคลที่ฟังพระวาจาแล้วรับไว้จึงเกิดผลสามสิบเท่าหกสิบเท่าและร้อยเท่า>>(มก.4:20)<<ฝนและหิมะลงมาจากท้องฟ้าและไม่กลับไปที่นั่นถ้าไม่ได้รดแผ่นดินทำให้แผ่นดินอุดม ทำให้พืชงอกขึ้นเพื่อให้ผู้หว่านมีเมล็ดพันธุ์ และให้ผู้กินมีอาหารฉันใด>>(อสย.55:10-11) ดังนั้นคริสตชนจงเป็นผู้หว่านพระวาจาของพระเยซูเจ้าเถิด พระองค์จะเป็นผู้ทำให้พระวาจานั้นเติบโต....
>>“ท่านรักเราไหม” เขาทูลตอบว่า “พระเจ้าข้า พระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง พระองค์ทรงทราบว่าข้าพเจ้ารักพระองค์” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “จงเลี้ยงดูแกะของเราเถิด”<< (ยน.21:17)
คุณพ่อเอนก นามวงษ์ รำพึงพระวาจาประจำวันได้ที่ www.kamsonchan.com
|