บทอ่านแรกประกาศกอาบากุก ตัดพ้อกับพระเจ้า จะให้ท่านรอนานสักเท่าไหร่ที่พระองค์จะฟังคำภาวนาของท่านประกาศก “ข้า​แต่พระเจ้า ข้าพ​เจ้า​จะ​ต้อง​ร้องขอ​ความ​ช่วยเหลือ​นาน​สัก​เท่าใดพระ​องค์​จึง​จะ​ทรง​ฟัง”(ฮบก.1:2)

          พระวรสาร พระเยซูเจ้าก็ถามเช่นกันว่า “อีกนานเท่าใด”(มธ..17:17)“เรา​จะ​ต้อง​อยู่​กับ​พวก​ท่าน​อีก​นาน​เท่าใด”(มธ..17:17) พระเจ้าต้องการคำตอบจากผู้ติดตามพระองค์, จากประชากรของพระองค์เช่นกัน

          ถ้าหากคริสตชนคิดว่า พระเจ้าช่างเงียบ ไม่ฟังคำภาวนาของเราเลย หรือโอ้โห นานจังเลยกว่าพระเจ้าจะฟังคำภาวนาของเรา

          ให้เราคิดในมุมกลับบ้าง พระเจ้าคงจะตัดพ้อว่า “อีกนานเท่าใดคริสตชนจะฟังวาจาของเรา?”   จะให้เรา (พระเจ้า) รอนานเท่าใดที่คริสตชนจะประกาศพระวรสารไป“จนถึง​สุด​ปลาย​แผ่น​ดิน”(กจ.1:8)

          พระเยซูเจ้ารอคริสตชนให้ร่วมมือกับพระองค์ประกาศพระวาจา สร้างอาณาจักรสวรรค์บนแผ่นดิน

          “พระเจ้า​มิได้​ทรง​รีรอ​ที่​จะ​ปฏิบัติ​ตาม​พระ​สัญญา​ดังที่​บาง​คน​คิด”(2ปต.3:9) แต่เป็นคริสตชนเองที่พยายามไม่สนใจความปรารถนาของพระเจ้า มักจะแก้ตัวไม่ทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า แก้ตัวเพื่อที่จะไม่ฟังพระวาจาของพระองค์(อ่านเพิ่มเติมพระวรสารนักบุญลูกา 14:18-20)

          ดังนั้น คริสตชนจง “ดำเนิน​ชีวิต​ที่​ยัง​เหลือ​อยู่​ใน​โลก​นี้​เพื่อ​ปฏิบัติ​ตาม​พระ​ประสงค์​ของ​พระ​เจ้า” เถิด (1ปต.4:2)

>>พระผู้ไถ่คือพระคริสตเยซูผู้ทรงทำลายความตาย

และทรงนำชีวิต

และความไม่รู้จักตายให้ปรากฏชัดแจ้งโดยทางข่าวดี<<

คุณพ่อเอนก นามวงษ์

รำพึงพระวาจาประจำวันได้ที่ www.kamsonchan.com