พระเยซูเจ้าไม่อนุญาตศิษย์คนหนึ่งกลับไปฝังศพบิดาของเขา พระเยซูเจ้าต้องการสอนอะไรแก่เราในวันนี้?

          พระวรสารวันนี้พระเยซูเจ้าต้องการสอนเราว่า ผู้ที่ติดตามพระองค์ต้องละจากทรัพย์สมบัติของตนเอง“ทุก​ท่าน​ที่​ไม่​ยอม​สละ​ทุกสิ่ง​ที่​ตน​มี​อยู่ ก็​เป็น​ศิษย์​ของ​เรา​ไม่​ได้”(ลก.14:33)

          หลายตอนในพระวรสารที่พระเยซูเจ้าสอนให้ติดตามพระองค์ พระองค์เรียกร้องให้เราเสียสละตนเอง“ถ้า​ผู้ใด​ติดตาม​เรา​โดย​ไม่​รัก​เรา​มาก​กว่า บิดา​มารดาภรรยา บุตร​พี่​น้อง​ชาย​หญิงและ​แม้กระทั่ง​ชีวิต​ของ​ตนเองผู้​นั้น​เป็น​ศิษย์​ของ​เรา​ไม่​ได้”(ลก.14:26)

          สิ่งที่พระเยซูเจ้าสอนไม่ใช่ไม่ให้ไปฝังศพบิดา หรือสอนให้เกลียดบิดามารดา แต่ความหมายของพระเยซูเจ้าที่ทรงใช้คำที่รุนแรงเช่นนั้น “​ปล่อย​ให้​คนตาย​ฝัง​คนตาย​ของ​ตน​เถิด”(มธ.8:22) “ไม่​รัก​เรา​มาก​กว่า บิดา​มารดาภรรยา บุตร​พี่​น้อง​ชาย​หญิงและ​แม้กระทั่ง​ชีวิต​ของ​ตนเอง”(ลก.14:26)

          เมื่อเปรียบเทียบกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับบุคคล พระองค์ต้องการสอนว่า สำหรับศิษย์ของพระเยซูเจ้า ต้องรักพระองค์เป็นอันดับแรก  ต้องวางสถานะของพระเจ้าเป็นอันดับแรกในชีวิตเราเสมอ ๆ

          หากเราอ่านพระวรสารของนักบุญมาระโก จะพบว่า พระเยซูเจ้ายังตำหนิฟาริสี ธรรมาจารย์ที่บิดเบือนคำสอนเรื่องบิดามารดา(มก.7:10-13)

          ก่อนที่จะให้เอลีชาติดตามตนเอง (เอลียาห์) เอลียาห์ให้เอลีชากับบ้านปรนนิบัติรับใช้บิดาของเอลีชา (1พกษ.19:19-21)“ขอให้​ข้าพเจ้า​ไป​จูบ​ลา​บิดา​มารดา​ก่อนแล้ว​ข้าพเจ้า​จะ​ติดตามท่าน” (1พกษ.19:20)“ไป​เถิด​แล้ว​จง​กลับมา”(1พกษ.19:20)

          ดังนั้นสรุปได้ว่า การติดตามพระเยซูเจ้า ต้องให้พระองค์มาเป็นอับดับแรก

ในวันนี้ท่านทั้งหลายอย่าทำใจแข็งกระด้าง

แต่จงฟังพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด

คุณพ่อเอนก นามวงษ์

รำพึงพระวาจาประจำวันได้ที่ www.kamsonchan.com